เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบหญิงชราพิการวัย 57 ปี อาศัยป้ายโฆษณามุงพอได้บังแดดบังฝน ไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพร้อมกับนายอภิชาติ อุประ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 บ้านลาดกลาง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นกระท่อมปลายนาไม่มีเลขที่ มีผ้าพลาสติกป้ายโฆษณาปิดด้านข้างและหลังคาพอได้บังแดดบังฝน พบนางกงหลา ค่อยชัยภูมิ อายุ 57 ปี ขาด้านขวาหักจนกระดูกโผล่ออกมา เดินไปไหนมาไหนด้วยความยากลำบากต้องใช้ไม้ช่วยพยุง บริเวณเส้นประสาทได้รับการกระทบกระเทือนพูดได้ช้าและไม่ค่อยชัด ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าก่อนหน้านี้ตนเองอยู่กับพี่สาวชื่อว่านางเกศ ฯ อยู่ที่บ้านเลขที่ 214 หมู่ที่ 12 บ้านใหม่โพธิ์ทอง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู หลังจากพี่สาวคือนางเกศ ฯ เสียชีวิต ก็ได้มาอาศัยอยู่กับนายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ อายุ 72 ปี พี่ชาย ตนเองมีรายได้จากเบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่มี และชื่อในสำเนาทะเบียนบ้านของตนเองยังอยู่ที่บ้านพี่สาว ที่บ้านเลขที่ 214 หมู่ที่ 12 บ้านใหม่โพธิ์ทอง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อสามปีที่แล้วตนเองได้ลงไปรับจ้างตัดอ้อย ที่ จ.ลพบุรี เกิดประสบอุบัติเหตุโดนรถชนขาหัก จนต้องพิการมาถึงทุกวันนี้ มีบุตร 2 คน หญิง 1 ชาย 1 คิดถึงอยากเจอบุตรชายและบุตรสาวกับหลานมาก ตอนนี้ลงไปทำงานรับจ้างตัดอ้อยซึ่งไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านและส่งเงินมาช่วยเหลือนานแล้ว บางครั้งก็น้อยใจในโชคชะตา ทุกวันนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากจึ่งอยากวิงวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 169 หมู่ 13 บ้านลาดกลาง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39000 ซึ่งเป็นพี่ชายของนางกงหลา ฯได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าหลังจากที่พี่สาวคนโตได้เสียชีวิตนางกงหลาฯ น้องสาวซึ่งเป็นคนที่ 6 จึงได้มาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งร่างกายก็พิการเดินเหินไปมาลำบาก ทุกวันตนเองได้นำอาหารมาส่งให้น้องทุกวัน ส่วนตนเองได้เข้าไปนอนในหมู่บ้านพร้อมกับครอบครัว ส่วนน้องสาวต้องนอนอยู่คนเดียวที่กระท่อมนา บางวันตนเองก็จะนอนอยู่เป็นเพื่อนน้องสาว ทุกวันนี้เป็นเสาหลักต้องหาเลี้ยงครอบครัวทั้งหมด 7 ชีวิต และมีหนี้สินเกือบ 100,000 บาท ที่กู้ยืมมาจากสถาบันการเงินกองทุนหมู่บ้าน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส) กู้มาทำบุญค้าขายขณะนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด ตนเองมีอาชีพหารับซื้อของเก่าบ้าง และรับซื้อพัดลมเก่ามาซ่อมขาย มีรายได้วันละ 100 – 200 บาท บางวันก็ขายพัดลมได้ก็ไม่มีเงินเข้าบ้าน ต้องอดมื้อกินมื้อก็มีบุตรชายช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราวจึงขอฝากผู้ใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือน้องสาวหรือครอบครัวของตนเอง สามารถบริจาคสิ่งของได้ที่ นายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ บ้านเลขที่ 169 หมู่ 13 บ้านลาดกลาง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39000 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองบัวลำ ภูเลขที่บัญชี 5382 – 5160 - 44 ชื่อบัญชีนายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 091- 375 5774
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 169 หมู่ 13 บ้านลาดกลาง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39000 ซึ่งเป็นพี่ชายของนางกงหลา ฯได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าหลังจากที่พี่สาวคนโตได้เสียชีวิตนางกงหลาฯ น้องสาวซึ่งเป็นคนที่ 6 จึงได้มาอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งร่างกายก็พิการเดินเหินไปมาลำบาก ทุกวันตนเองได้นำอาหารมาส่งให้น้องทุกวัน ส่วนตนเองได้เข้าไปนอนในหมู่บ้านพร้อมกับครอบครัว ส่วนน้องสาวต้องนอนอยู่คนเดียวที่กระท่อมนา บางวันตนเองก็จะนอนอยู่เป็นเพื่อนน้องสาว ทุกวันนี้เป็นเสาหลักต้องหาเลี้ยงครอบครัวทั้งหมด 7 ชีวิต และมีหนี้สินเกือบ 100,000 บาท ที่กู้ยืมมาจากสถาบันการเงินกองทุนหมู่บ้าน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธกส) กู้มาทำบุญค้าขายขณะนี้ก็ยังใช้หนี้ไม่หมด ตนเองมีอาชีพหารับซื้อของเก่าบ้าง และรับซื้อพัดลมเก่ามาซ่อมขาย มีรายได้วันละ 100 – 200 บาท บางวันก็ขายพัดลมได้ก็ไม่มีเงินเข้าบ้าน ต้องอดมื้อกินมื้อก็มีบุตรชายช่วยเหลือบ้างเป็นครั้งคราวจึงขอฝากผู้ใจบุญที่อยากจะช่วยเหลือน้องสาวหรือครอบครัวของตนเอง สามารถบริจาคสิ่งของได้ที่ นายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ บ้านเลขที่ 169 หมู่ 13 บ้านลาดกลาง ตำบลป่าไม้งาม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู 39000 หรือบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาหนองบัวลำ ภูเลขที่บัญชี 5382 – 5160 - 44 ชื่อบัญชีนายหนูเวช ค่อยชัยภูมิ หรือโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 091- 375 5774
จ.หนองบัวลำภู นายวรรธนะ ทองดี