วันที่ 12 ก.ย.2568 ที่อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายแสวง บุญมี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบคำร้องยุบ 6 พรรคการเมือง ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ชี้นำ ครอบงำการจัดตั้งรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยผู้ร้องอ้างเหตุที่แกนนำพรรคการเมือง เดินทางไปร่วมรับประทานอาหาร และมาม่า กับนายทักษิณ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ว่านายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ยกคำร้อง ภายหลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พิจารณาตามข้อเท็จจริงแล้ว จากการตรวจสอบและเชิญ 6 พรรคเข้าชี้แจงก็ได้รับคำยืนยันว่า ไม่ได้ขาดความอิสระ หรือสูญเสียการตัดสินใจ ซึ่งองค์ประกอบพฤติการณ์การครอบงำนั้นจะต้องทำให้พรรคขาดความเป็นอิสระ
เลขาธิการ กกต. ยังยอมรับว่า การครอบงำพรรคการเมืองเป็นประเด็นสังคมให้ความสนใจ และมีคำร้องระหว่างการพิจารณาอีกมาก ซึ่งข้อเท็จจริงส่วนใหญ่เป็นการไปพูดปราศรัย แต่การครอบงำจะต้องพิจารณากฎหมายอย่างละเอียด ซึ่งหากมองผ่านๆ หรือความรู้สึกอาจเป็นการครอบงำ แต่ตามกฎหมายพรรคการเมืองจะต้องยินยอม และบุคคลนั้นได้ครอบงำ ชี้นำ รวมถึงการครอบงำชี้นำนั้นจะต้องทำให้กิจกรรมของพรรคการเมืองขาดความเป็นอิสระ เมื่อพิจารณากฎหมายครบองค์ประกอบแล้ว ผลการครอบงำนั้น จะต้องทำให้พรรค หรือสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระด้วย
เมื่อถามว่าพฤติการณ์ทักษิณออกมาพูดตามเวทีต่าง ๆ ไม่เข้าข่ายใช่หรือไม่ เลขาธิการ กกต.กล่าว ไม่มีหลักฐานที่ฟังได้ว่า เป็นการครอบงำตามกฎหมาย และไม่ใช่ความความรู้สึก ซึ่งจะต้องนำไปพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะยังมีคำร้องนายทักษิณ ครอบงำพรรคเพื่อไทย ที่รอการพิจารณาของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่
เมื่อถามว่า MOA ระหว่างพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทยในการสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯ ถือเป็นการครอบงำหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า หากเป็นการครอบงำจะต้องเข้าองค์ประกอบความผิดตาม มาตรา 28 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าได้พรรคการเมือง ซึ่งยังจะต้องพิจารณาถึงข้อเท็จจริงอีกครั้ง