ช่วยกันคิดช่วยกันทำ / ทหารประชาธิปไตย

เป็นที่ยืนยันโดยชัดเจนแล้วว่า อิสราเอล คือภัยคุกคามความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งนี้แค่ช่วงเวลาเพียง 48 ชั่วโมง อิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีกาซา เลบานอน ซีเรีย ตูนิเซีย และกาต้าร์

โดยการโจมตีกาซา ประเทศปาเลสไตน์นั้นมีวัตถุประสงค์ในแผนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ ซึ่งได้ปรับแผนที่จะยึดครองกาซาซิตี้ ด้วยการวางรากฐานทางทหารแล้วรุกคืบหน้าเพื่อแบ่งกาซาเป็นชิ้นๆ แล้วล้อมรอบด้วยทหาร จากนั้นก็ควบคุม เข่นฆ่า หรือกักกันให้ขาดอาหาร น้ำดื่ม บริการสาธารณสุข ทำให้ประชากรกาซาค่อยๆล้มตายลงไปอย่างช้าๆ เพราะไม่อาจผลักดันให้คนส่วนใหญ่นับล้านอพยพไปอยู่ในประเทศอื่นๆ เหตุเพราะคนจำนวนนับล้านเป็นภาระหนักเกินไปสำหรับหลายประเทศ นับว่าอิสราเอลอำมหิตโหดเหี้ยมเกินมนุษย์

ที่เลบานอนแม้อิสราเอลจะมีสัญญาหยุดยิงกับรัฐบาลเลบานอนที่มีสหรัฐฯเป็นตัวกลาง แต่อิสราเอลไม่เคยหยุดโจมตีภาคใต้และเขตใต้ของเบรุตในเลบานอน โดยอ้างเหตุว่าเพื่อกำจัดฮิซบุลลอฮ์ ทั้งๆที่ในขณะนี้ ฮิซบุลลอฮ์ก็ได้หยุดโจมตีอิสราเอลแล้วตามข้อตกลงที่รัฐบาลเลบานอนทำกับอิสราเอล

นอกจากนี้สหรัฐฯ ที่รู้เห็นเป็นใจในการโจมตีเลบานอน ยังกดดันรัฐบาลเลบานอนให้ปลดอาวุธฮิซบุลลอฮ์ ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ฝ่ายฮิซบุลลอฮ์ย่อมไม่ยินยอม ตามคำประกาศของท่านนาอิม เลขาธิการใหญ่ได้ประกาศต่อสาธารณะ

ซีเรียเป็นดินแดนที่อิสราเอลมุ่งหมายครอบครองเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายดินแดนจัดตั้งเป็นมหาอาณาจักรอิสราเอล (THE GREATER ISRAEL) จึงพยายามขยายอาณาเขตในซีเรียทั้งๆที่ได้ทำสัญญายัติการสู้รบกับรัฐบาลซีเรียของนายโจลานี อดีตผู้ก่อการร้าย ISIS แต่อิสราเอลก็ขยายปฏิบัติการทางทหารที่ตกลงเพื่อสร้าง “ระเบียงเดวิด” อันเป็นฐานในการขยายแผ่นดินของอิรสเอล เพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวอิสราเอลจึงหาข้ออ้างในการโจมตีซีเรียเป็นระยะๆ และขยายเขตยึดครองออกไปเรื่อยๆตามจังหวะและโอกาส

ตูนิเซียอยู่ในแอฟริกาเหนือติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ความจริงดูแล้วอยู่ห่างจากอิสราเอลมากไม่น่ามีเหตุให้ถูกโจมตี แต่ก็นั่นแหละอิสราเอลจะถือสิทธิที่จะโจมตีใครก็ได้ โดยไม่คำนึงถึงการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎบัตรของสหประชาชาติ

ดังนั้นเมื่อตูนิเซียต้อนรับขบวนเรือ SUMUT FORTILLA ซึ่งเป็นกองเรือที่มีวัตถุประสงค์จะนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่กาซา โดยมีผู้ร่วมเดินทางกว่า 30 ชาติ ไปจอดที่อ่าวตูนิเซีย เรือธงของขบวนกองเรือจึงถูกโดรนของอิสราเอลโจมตรีจนเกิดไฟไหม้ ความเสียหายยังไม่อาจประเมินได้ในขณะนี้

สุดท้ายกาตาร์ที่เป็นเจ้าภาพในการเจรจาหาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งตอนนี้ฮามาสยอมรับเงื่อนไขของอิสราเอลคือจะปล่อยตัวประกันทั้งหมดแลกกับการหยุดยิงตามที่ทรัมป์เห็นชอบ แต่อยู่ๆเมื่อผู้นำฮามาสที่ไปร่วมประชุมหยุดยิงที่โดฮา กาตาร์ กำลังประชุมกันเพื่อปรึกษาถึงแนวทางปฏิบัติ อิสราเอลก็ส่งเครื่องบินเข้าไปโจมตีหวังสังหารผู้ฮามาสทั้งคณะ เดชะบุญผู้นำฮามาสรอดไปได้ แต่ฝั่งกาตาร์แสดงความโกรธและประณามว่า อิสราเอลเป็นผู้ก่อการร้ายละเมิดอำนาจอธิปไตยของกาซา ในขณะที่สหรัฐฯก็ออกตัวว่า เสียใจที่แจ้งกาตาร์ช้าไป เพียง 10 นาที แต่ก็มีข้อสังเกตว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของการ์ตา ที่ซื้อมาจากสหรัฐฯ ไม่ทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เมื่ออิหร่านโจมตีฐานทัพอากาศสหรัฐฯในการ์ตา เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯไปโจมตีศูนย์นิวเคลียร์อิหร่านที่เมืองฟอร์โดว์ ระบบยังทำงานปกติ เรื่องนี้น่าจะมีเงื่อนงำ หรือถูกอิสราเอลแฮกก็มองได้

การ์ตาประกาศว่าขอสงวนสิทธิในการตอบโต้ แต่ดูไปแล้วคงไม่กล้าตอบโต้ด้วยกำลังทหาร อาจใช้มาตรการทางกฎหมาย คือฟ้องศาลโลก แต่เรื่องนี้อิสราเอลไม่แคร์อยู่แล้วกับคำตัดสินของศาลโลก เช่น การพิจารณาคดีเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงคราม งานนี้สรุปได้ว่าเนทันยาฮูไม่ต้องการช่วยตัวประกันและไม่ต้องการยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวกาซา

ด้วยเหตุการณ์ที่กลุ่มประเทศในภูมิภาคถูกอิสราเอลโจมตี ตลอดจนท่าทีคุกคามของอิสราเอลในการขยายดินแดนเป็นมหาอาณาจักรอิสราเอล (THE GREATER ISRAEL) ที่จะกระทบดินแดนซีเรีย เลบานอน จอร์แดน อิรัค เยเมน และซาอุดิอารเบียคงทำให้กลุ่มประเทศอาหรับได้ประเมินสถานการณ์ใหม่ นั่นคือภัยคุกคามของอิสราเอลต่อความมั่นคงในภูมิภาค

ทั้งนี้ถ้าไม่มีสหรัฐฯคอยหนุนหลังและสนับสนุนอิสราเอลอย่างสุดลิ่มทิ่มประตู อิสราเอลคงไม่อาจอหังการ์ได้แบบนี้

ในขณะที่กลุ่มประเทศอาหรับถึงแม้ไม่อาจแข็งขืนต่อต้านทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯ แต่ก็อาจพิจารณาโยกย้ายการลงทุนในสหรัฐฯ ที่กำลังมีความเสี่ยงสูง เพราะเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังจะพังครืนลงด้วยตลาดหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ และตลาดตราสารหนี้ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่จะเพิ่มสูงยิ่งจากการลดดอกเบี้ยของเฟด ค่าเงินดอลลาร์ตกต่ำเพราะปริมาณเกินต้องการประกอบกับนโยบายขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์ ที่ทำให้การค้าเกิดการชะงักงันยิ่งซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ดังนั้นกลุ่มประเทศอาหรับมีทางเลือกคือการย้ายฐานไปลงทุนการค้ากับกลุ่มบริกส์ (BRICS) ซึ่งจะกลายมาเป็นขั้วคู่แข่งกับฝ่ายสหรัฐฯ และพันธมิตร

และนี่จะเป็นการลดความเสี่ยงของมหาเศรษฐีชาวอาหรับที่จะไม่เอาไข่ใส่ตะกร้าใบเดียวกันแต่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯยิ่งพังเร็วขึ้น

แต่ทั้งหลายทั้งปวงในสายตาชาวโลก อิสราเอล คือมหันตภัยของความมั่นคงนานาชาติ ที่มีโอกาสจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้อย่างมาก โดยเฉพาะการตัดสินใจโจมตีอิหร่าน ซึ่งจะทำให้มหาอำนาจทั้ง 2 ขั้ว คือ สหรัฐฯและพันธมิตรกับขั้วจีน รัสเซีย และพันธมิตร เข้ามามีส่วนร่วมในสงครามนี้ อันเป็นการเปิดประตูสู่สงครามโลกครั้งที่ 3

ประเทศไทยจึงต้องทบทวนบทบาทของตนเองให้รอบคอบรัดกุม แค่ประกาศตนเป็นกลางคงไม่เพียงพอ และคงไม่อาจเหยียบเรือ 2 แคมได้อีกต่อไป