ประเด็นร้อนเศรษฐกิจ วันที่ 11 กันยายน 2568
- นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขอวิจารณ์ตรงๆ โดยไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นการแทรกแทรง โดยช่วงนี้ค่าเงินบาทของไทยแข็งขึ้นต่อเนื่อง ผมค่อนข้างเป็นกังวลในวิกฤติทางเศรษฐกิจนี้ เพราะล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 31.7 บาทต่อดอลลาร์ แข็งที่สุดในรอบ 4 ปี และแข็งขึ้นแล้วกว่า 5–6% ตั้งแต่ต้นปี 2568 ผลที่ตามมาคือภาคส่งออก ซึ่งเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทยกำลังได้รับผลกระทบโดยตรง
- นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เผยว่า โครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ ทางเทคนิคมีความพร้อม เนื่องจากระบบมีอยู่แล้ว ยืนยันว่าหากมีนโยบายสามารถดำเนินการได้ทันที และการดำเนินการได้เร็วก็ต้องผ่านแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่ในอดีตเคยดำเนินการ สำหรับงบประมาณนั้น หากโครงการเริ่ม 1 ตุลาคม 2568 สามารถดำเนินการจัดทำโครงการโดยใช้งบประมาณปี 2569 ได้ จากงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีวงเงินอยู่ 2.5 หมื่นล้านบาท แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้งบประมาณมากกว่านั้น สามารถปรับเปลี่ยนโดยโยกงบจากงบประมาณกลางได้
- นายธนวรรธน์ พลวิชัย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ และปีอ 2569 โดยใช้สมมติฐานว่า การเมืองไทยในขณะนี้มีเสถียรภาพไปจนกว่าจะมีการยุบสภา โดย ณ ปัจจุบัน ม.หอการค้าไทย ยังประเมินในมุมมองเดิมว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ มีโอกาสเติบโตได้ 2% หรือบวก/ลบ จากนี้ได้อีกเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรก ขยายตัวได้แล้ว 3%