สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินหน้าภารกิจสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ พร้อมเสริมทักษะด้านนวัตกรรมครบวงจร ตั้งแต่การคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาเชิงระบบ ไปจนถึงการสร้างโมเดลธุรกิจ ผ่านโครงการSTEAM4INNOVATOR ที่ใช้แนวคิด ‘เรียนรู้จากการลงมือทำจริง’ และ ‘บูรณาการศาสตร์STEAM’ เพื่อปูพื้นฐานสู่การเป็นผู้ประกอบการนวัตกรรมในอนาคต พร้อมจัดงาน ‘STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9’ พื้นที่โชว์ชองสุดเข้มข้นจากนวัตกรรุ่นเยาว์ที่ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะ
การสร้างนวัตกรรมแบบ STEAM4INNOVATOR ด้วย 22 ผลงานไอเดียเปลี่ยนโลก ทั้งนวัตกรรมสายกรีนและสายสุขภาพ ที่สะท้อนพลังของ Gen Z ในฐานะ ‘นวัตกรรุ่นใหม่’ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมแห่งนวัตกรรม พร้อมร่วมกิจกรรมเวิร์กช็อปโซน ‘ห้องปล่อยของ’ จาก ‘STEAM4INNOVATOR Center’ ทั้ง 19 แห่ง ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนและผู้สนใจได้เรียนรู้ทักษะการเป็นนวัตกรผ่านกระบวนการ STEAM4INNOVATOR
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ NIA กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Z ไม่ได้เป็นเพียงผู้ใช้งานเทคโนโลยี แต่เป็นผู้ที่เติบโตมาในโลกของดิจิทัลและ AI ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มีความได้เปรียบในมุมมองการสร้างสรรค์และแก้ไขปัญหาด้วยนวัตกรรม รวมถึงค่านิยมในการสร้างคุณค่าทางสังคม ทำให้เส้นทางอาชีพในฝันของคนเจเนอเรชันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกรอบงานแบบเดิม แต่ขยายไปสู่อาชีพที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ความยั่งยืน และการเป็นผู้ประกอบการ ดังนั้น คนรุ่นใหม่จึงต้องการพื้นที่ทดลองและต่อยอดผลงานนวัตกรรมมากขึ้น NIA จึงมุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยเติบโตในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ ทดลอง และสร้างนวัตกรรม ผ่านโครงการ STEAM4INNOVATOR ที่ออกแบบมาเพื่อ ‘ปลุกพลังนวัตกรรุ่นใหม่’ ให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อย่างรอบด้าน พร้อมเสริมทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ การแก้ปัญหา และการสร้างโมเดลธุรกิจนวัตกรรม
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โครงการได้พัฒนาและวางรากฐานให้ทั้งเยาวชน ครูอาจารย์ ผู้ปกครอง และ สถาบันการศึกษาจนเกิดผลสำเร็จในการสร้างความตระหนักและแรงบันดาลใจให้เยาวชนกว่า 100,000 คน และจำนวนกว่า 1,600 คน ได้รับการพัฒนาศักยภาพที่เข้มข้นจากโครงการสำคัญ เช่น Thailand Innovation Awards, The Health Promotion Innovation Playground, Innovator Journey, STEAM4INNOVATOR Achievement Program จนสามารถก่อตั้งบริษัทเพื่อดำเนินธุรกิจจริงได้ไม่ต่ำกว่า 15 แห่ง มีการออกแบบการเรียนรู้ในกลุ่มครูผู้สร้างนวัตกรเพื่อการขยายผลมากกว่า1,200 คน
ในสถาบันการศึกษามากกว่า 65 แห่ง ปัจจุบันเกิดศูนย์เครือข่าย STEAM4INNOVATOR CENTER ในกลุ่มโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สถาบันอาชีวศึกษา และมหาวิทยาลัย 36 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้คนรุ่นใหม่มีทักษะนวัตกร และได้ดำเนินการวางโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่มุ่งขยายผลให้ทั่วถึงในระดับประเทศอย่างเป็นระบบ โครงการ STEAM4INNOVATOR ไม่เพียงเป็นเวทีให้เยาวชนได้ฝึกคิด ฝึกทดลอง ยังเป็นการปูทางสู่การสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมเยาวชนไทยที่แข็งแกร่ง เพื่อสร้างกำลังคนด้านนวัตกรรมที่ตอบโจทย์อนาคต
ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA จัดงาน “STEAM4INNOVATOR’s Day 9.9” ขึ้น เพื่อให้ครู อาจารย์ นักศึกษา รวมถึงบุคคลภายนอกที่สนใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์การสร้างห้องเรียนนวัตกรรม พร้อมโชว์ศักยภาพและผลสำเร็จการพัฒนาและสร้างสรรค์นวัตกรรมจากนวัตกร Gen Zจำนวน 22 นวัตกรรม ครอบคลุมกลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพและกลุ่มธุรกิจสีเขียว ซึ่งนับเป็นกลุ่มที่คนรุ่นใหม่สนใจและต้องการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เช่น กลุ่มการสร้างเสริมสุขภาพได้แก่ Showsmind หน้ากากอนามัยแบบใส (ป้องกันฝุ่น) สำหรับเด็ก สามจักรพรรดิมรณะแพลตฟอร์มพื้นที่ปลอดภัยทางใจและเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้งาน VapeVerse WaveWorldแพลตฟอร์มเกม VR สร้างภูมิคุ้มกันบุหรี่ไฟฟ้าให้เยาวชน Bokbaek บอร์ดเกมสำหรับครอบครัวที่ช่วยเปิดบทสนทนาระหว่างพ่อแม่กับลูกเพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางอารมณ์ และกลุ่มธุรกิจสีเขียวได้แก่ ระบบติดตามค่าฝุ่นละอองในไซต์งานก่อสร้างแบบเรียลไทม์ผ่านเว็บไซต์ การพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียจากแผนกไตเทียม WASTE-D Ecosystems นวัตกรรมจัดการขยะชุมชนเพื่อความยั่งยืน เป็นต้น
โดยยังมีกิจกรรมเวิร์กช็อปเสริมทักษะ และเครื่องมือสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์จากเครือข่ายครู อาจารย์ ใน “STEAM4INNOVATOR Center” ทั้ง 19 แห่ง ในพื้นที่ ‘ห้องปล่อยของ’ ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยจุดประกายให้เด็กไทยกล้าคิด กล้าทำ แต่ยังเป็นการสร้างฐานกำลังคนด้านนวัตกรรมที่มีคุณภาพ เพื่อพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็น ‘ชาตินวัตกรรม’ ตลอดจนเป็นแนวทางเชิงปฏิบัติสำหรับ ภาคการศึกษากับโอกาสปรับเปลี่ยนหลักสูตรสู่การเรียนรู้เชิงทักษะ ลงทุนในเทคโนโลยีการศึกษาและพื้นที่สร้างสรรค์ และส่งเสริมการทำงานร่วมกับโลกแห่งความเป็นจริง ภาคธุรกิจกับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ยืดหยุ่นให้ความสำคัญกับการออกแบบระบบการทำงานที่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาด และภาครัฐ
“จากผลสำเร็จในปีนี้ NIA จึงจัดตั้ง ‘กลุ่มงานพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์’ อย่างเป็นทางการ เพื่อให้การทำงานมีโครงสร้างพื้นฐานและแผนงานที่เป็นระบบ สามารถขยายผลในระดับประเทศได้อย่างเข้มแข็ง โดยมีกลยุทธ์การดำเนินการ 2 มิติ คือ ด้านการศึกษา มุ่งเน้นการพัฒนาเยาวชน ครู และศูนย์สร้างนวัตกรรุ่นใหม่ในภูมิภาค ควบคู่กับการทำงานเชิงนโยบาย และด้านอาชีพนวัตกรมุ่งเน้นการพัฒนาระบบอาชีพด้านนวัตกรรม ที่เกี่ยวกับการรับรองระดับความรู้ ความเข้าใจ ความสามารถด้านนวัตกรรม และการสร้างเกณฑ์มาตรฐานอาชีพนวัตกร โดยปี 2569 NIA จะมุ่งขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรุ่นเยาว์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการขยายผลอย่างกว้างขวางทั้งในและนอกระบบการศึกษา เพื่อให้เกิดการบ่มเพาะเยาวชนอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมมากขึ้น