กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในช่วงฤดูฝน เนื่องจากในหลายพื้นที่ของประเทศไทย มีฝนตกอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ อาจทำให้แหล่งน้ำมีน้ำเยอะ ไหลเชี่ยวแรง ระดับน้ำเปลี่ยน และขอบบ่อนิ่ม ลื่น อาจเกิดการพลัดตกลงไปในน้ำและจมน้ำเสียชีวิตได้

นพ.ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้นี้ มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้น้ำในแหล่งน้ำมีระดับสูงขึ้นมากกว่าปกติ น้ำไหลเชี่ยวแรง ขอบบ่อนิ่ม มีหญ้าปกคลุม มองเห็นขอบบ่อน้ำไม่ชัดและเสี่ยงต่อการพลัดตกลื่นลงน้ำได้ง่าย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการจมน้ำสูง โดยจากข้อมูลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี พ.ศ. 2558 - 2567) ช่วงฤดูฝน 5 เดือน (เดือนมิถุนายน - ตุลาคม) พบคนไทยจมน้ำเสียชีวิตเฉลี่ย 1,675 รายต่อปี โดยพบมากที่สุดในเดือนตุลาคม 398 ราย รองลงมาเป็นเดือนกันยายน 360 ราย กลุ่มอายุที่เสียชีวิตสูงสุด คือ 45 - 59 ปี (488 ราย) และกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป (431 ราย)

“สาเหตุหลักของการจมน้ำในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เกิดจากการเล่นน้ำมากที่สุด รองลงมา คือ พลัดตกลื่น ส่วนในกลุ่มผู้ใหญ่ เกิดจากการประกอบอาชีพหาปลา หาหอย เก็บผัก มากที่สุด แหล่งน้ำที่พบการจมน้ำมากที่สุด คือ แหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และแหล่งน้ำตามธรรมชาติ โดยเกือบทั้งหมดของผู้เสียชีวิตไม่สวมเสื้อชูชีพ” นพ.ภาณุมาศ กล่าว

สถานการณ์ปี 2568 ในช่วงเดือนมกราคม - มิถุนายน พบคนไทยจมน้ำเสียชีวิตมากถึง 1,768 ราย
โดยกลุ่มอายุ 45 - 59 ปี มีการเสียชีวิตสูงที่สุด รองลงมาเป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป จังหวัดที่พบการเสียชีวิต
สูงที่สุดคือ นครราชสีมา (79 ราย) รองลงมาเป็น กรุงเทพมหานคร (77 ราย) และบุรีรัมย์ (66 ราย) แม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในภาพรวมของประเทศจะลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปี 2567 แต่ยังมีบางจังหวัดที่มีจำนวน
การเสียชีวิตสูงกว่าปี 2567 เช่น สุราษฎร์ธานี เพิ่มขึ้น 13 ราย สมุทรสาครและฉะเชิงเทรา เพิ่มขึ้น 11 ราย

กรมควบคุมโรค ขอเน้นย้ำมาตรการสำหรับประชาชนในการป้องกันการจมน้ำ ดังนี้ 1. อย่าเดินหรืออยู่ใกล้บริเวณขอบบ่อ เพราะขอบบ่อนิ่ม มีหญ้าปกคลุม อาจเกิดการลื่นไถลลงไปในน้ำ 2. ทำสัญลักษณ์/ป้ายเตือน/แนวกั้น เพื่อให้สังเกตเห็นขอบบ่อได้ชัดเจน 3. ผู้ปกครองที่พาเด็ก ออกไปหาปลา เก็บผัก เก็บหอย ไม่ควรปล่อยเด็กให้ลงไปในน้ำ 4. ไม่ลงไปในน้ำ เพราะระดับน้ำ กระแสน้ำ และพื้นใต้น้ำมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 5. หากจำเป็นต้องลงน้ำ ควรสวมเสื้อชูชีพ หรือใช้อุปกรณ์ลอยน้ำ เช่น ถังแกลลอนเปล่าปิดฝา ผูกเชือกสะพายติดตัว และกอดไว้เพื่อพยุงตัวในกรณีฉุกเฉิน และเน้นย้ำ 3 คำ จำขึ้นใจ ทุกวัยปลอดภัย ไม่จมน้ำ "ชูชีพ กฎ งดดื่ม" หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422