เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 10 ก.ย.68 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายภูเทพ ทวีโชติธนากุล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐและข้าราชการ 12 ราย เอื้อประโยชน์ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้าพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณ ว่า คำสั่งเมื่อวันที่ 9 ก.ย. เป็นคำสั่งแบบย่อ ต้องมาดูรายละเอียดฉบับเต็มว่าศาลว่าอย่างไรบ้าง เพราะเท่าที่ดูเอกสารที่ออกมาเผยแพร่ ศาลยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่าเป็น นาย ก. นาย ข. เพียงแต่เป็นการกล่าวถึงในบางตำแหน่งเท่านั้น
“ขั้นตอนของ ป.ป.ช. ตอนนี้อยู่ระหว่างการขอคัดคำสั่งศาลฉบับเต็มมาดู ที่สำคัญตัวพยานที่เบิกความในชั้นศาล 31 ปาก ต้องมาดูว่าเป็นพยานที่ ป.ป.ช. เคยเรียกมาสอบปากคำแล้วหรือยัง หากเรียกมาแล้วต้องดูว่าคำให้การต่อศาลนั้นตรงกับให้กับกรรมการ ป.ป.ช. หรือไม่ อย่างไรก็ตามในการขอคัดคำสั่งศาลฉบับเต็มว่า เท่าที่ประสานเห็นว่าน่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 5-7 วัน แต่เนื่องด้วยเอกสารเป็นถ้อยคำพยานบุคคลถึง 31 ปาก และมีพยานเอกสารจำนวนมาก ซึ่ง ป.ป.ช. เองต้องขอไปดูก่อน เพราะศาลจะต้องใช้ดุลพินิจว่าอะไรคัดได้ คัดไม่ได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า คำสั่งศาลระบุว่านายทักษิณ อาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ในส่วนของ ป.ป.ช. จะมีการขยายผลไปในส่วนนี้หรือไม่ นายภูเทพ กล่าวว่า ป.ป.ช. ต้องดูทั้งหมด เพราะเดิมการตั้งไต่สวนเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด แต่เมื่อมีประเด็นที่ศาลบอกว่านายทักษิณได้ประโยชน์จากการพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็ต้องมาดูว่าประโยชน์ที่ว่าใครอะไร และที่สำคัญ ประโยชน์ที่ว่าไปสัมพันธ์กับการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ เพราะเดิมประเด็นการไต่สวนมีประเด็นที่ว่าการนำนักโทษไปรักษาตัวข้างนอกเรือนจำ มีการปฏิบัติที่ฝ่าฝืนกฎหมายราชทัณฑ์และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องหรือไม่ และการนำตัวนักโทษไปรักษาที่โรงพยาบาล มีการกระทำข้ามขั้นตอนระเบียบว่าด้วยการส่งตัวผู้ป่วยหรือไม่
เมื่อถามว่า การไต่สวนของ ป.ป.ช. จะรวมถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ที่กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ด้วยหรือไม่ นายภูเทพ กล่าวว่า เดิมทีการตั้งไต่สวนเป็นเฉพาะข้าราชการ ยังไม่มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตาม หากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของตัวพยานที่ไปเบิกความกับศาล และที่ ป.ป.ช. สอบพยานไว้แล้ว หากมีความเชื่อมโยงไปถึงใคร กรรมการ ป.ป.ช. ก็สามารถตั้งไต่สวนเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือเอกชน ทั้งนี้ สำหรับข้าราชการที่ ป.ป.ช. ตั้งไต่ส่วนไปก่อนหน้านี้ มี 10 กว่าราย มีในส่วนเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ข้าราชการตำรวจที่มีตำแหน่งอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ โดยเป็นทั้งผู้บริหารสูงสุดของทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว