กลายเป็นดราม่าร้อนที่หลายคนจับตา สำหรับเรื่องราวของอาจารย์ชื่อดังกับ "พระอุเชน" วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช
ล่าสุดวันนี้ (10 ก.ย.68) เพจ สำนักศิลปากรที่12 นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความระบุว่า พระอุเชน วัดสวนขัน : โบราณวัตถุที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในความครอบครองของวัดและเอกชน
พระอุเชน เป็นพระพิฆเณศสร้างจากศิลา ศิลปะศรีวิชัย อายุพุทธศตวรรษที่ 13 - 15 อยู่ในความครอบครองของวัดสวนขัน ตำบลช้างกลาง อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช กรมศิลปากรพิจารณาเห็นว่าพระอุเชนเป็นโบราณวัตถุที่มีประโยชน์หรือคุณค่าในทางศิลปะ ประวัติศาสตร์หรือโบราณคดีเป็นพิเศษ จึงอาศัยอำนาจตาม พรบ.โบราณสถานฯ ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณวัตถุ (พระอุเชน) โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนพิเศษ 69 ง ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2550
การประกาศขึ้นทะเบียนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อปกป้องคุ้มครองโบราณวัตถุ (พระอุเชน) จากการดัดแปลงแก้ไข ชำรุด เสียหายหรือสูญหาย #โดยที่สิทธิ์ในการครอบครองพระอุเชนยังคงเป็นของวัดสวนขันดังเดิม ซึ่งจากการประกาศขึ้นทะเบียนมีผลให้พระอุเชนได้รับการคุ้มครองใน 3 ประเด็น สำคัญ ได้แก่
1.ห้ามมิให้ซ่อมแซม แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง โดยมิได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากร
2.หากเกิดความชำรุด หักพัง เสียหาย สูญหาย หรือมีการย้ายสถานที่เก็บรักษา ให้ผู้ครอบครองแจ้งเป็นหนังสือไปยังอธิบดีกรมศิลปากรภายใน 30 วัน
3.หากผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่า ทำให้ไร้ประโยชน์ หรือทำให้สูญหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ **ศึกษาเพิ่มเติมในพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 หมวด 2 และหมวด 5
กรณีข่าวพระอุเชนที่เป็นกระแสสังคมตอนนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2566 โดยมีกลุ่มผู้มีจิตศรัทธาได้จัดงานคเณศจตุรถี ในวันศุกร์ที่ 15 กันยายน 2566 ณ ธรรมสถานเรือนพระปัณณวิชญ์ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงได้ประสานมายังวัดสวนขันผู้ครอบครองพระอุเชน เพื่อขออนุญาตอัญเชิญพระอุเชนไปประดิษฐานชั่วคราว จากนั้นวัดสวนขันได้ทำหนังสือมายังสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช เพื่อขออนุญาตเคลื่อยนย้ายพระอุเชนไปยังสถานที่ประกอบพิธี #แต่เนื่องจากพระอุเชนเป็นโบราณวัตถุในความครอบครองของวัดสวนขัน กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช จึงไม่มีอำนาจในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตในการดังกล่าว จึงแจ้งว่าไม่ขัดข้องในการเคลื่อนย้ายพระอุเชน และเพื่อเป็นการปกป้องคุ้มครองพระอุเชนจากความชำรุดเสียหายจากการเคลื่อนย้ายหรือถูกสลับสับเปลี่ยนในก่อนและหลังการเคลื่อนย้ายพระอุเชน สำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในการเคลื่อนย้ายและร่วมตรวจสอบโบราณวัตถุดังกล่าวด้วย
ขอบคุณ เพจ สำนักศิลปากรที่12 นครศรีธรรมราช
ขอบคุณภาพ เพจ บิ๊กเกรียน