อสส.สั่งช่วยราชการ”อัยการดาว”เจ้าของสำนวนหมอแอร์ ย้ายไปกองคดีอาญา มีผล 1 ต.ค.นี้ วิจารณ์เเซ่ด เปลี่ยนม้ากลางศึกหวั่นคดีขาดความต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 10 ก.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2568 ที่ผ่านมาน ายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ลงนามในคำสั่งให้พนักงานอัยการช่วยราชการปฏิบัติราชการและรักษาการ 79 ตำเเหน่ง ซึ่งพบว่าในลำดับที่ 21 มีชื่อ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของสำนวนคดีหมอเเอร์ ถูกย้ายให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานอัยการคดีอาญากอง 8 มีผล 1 ต.ค.2568 ส่งผลให้ต้องหลุดออกจากการทำคดีนี้
ซึ่งก็สร้างความแปลกใจในกลุ่มอัยการที่ทราบข่าว เนื่องจากสำนักงานอัยการคดีอาญาที่อัยการดาว โดนย้ายก็ถือว่าเป็นสำนักงานเกรด A ของอัยการ เป็นสำนักงานใหญ่ที่ทำคดีสำคัญ การย้ายไปไม่น่าเป็นการกลั่นแกล้ง เเต่อีกมุมหนึ่งก็มีการมองว่า การย้ายช่วยราชการระหว่างที่มีการเตรียมจะสู้คดีในศาล อาจส่งผลสู้คดีเรื่องการขาดความต่อเนื่องของคดี หรือที่เรียกว่าเปลี่ยนม้ากลางศึก
สำหรับคดี “หมอเเอร์” ตกเป็นข่าวเกรียวกราวอีกครั้งหลังจาก บช.ปส.ส่งสำนวนคดี พ.ต.ท. หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือหมอแอร์ กับพวก12 ราย ค้ายาเสียสาวในช่วงเย็นวันที่ 28 ส.ค.2568 โดยคดีจะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 2 ก.ย. ซึ่งเหลือระยะเวลาเพียงไม่ถึง 4 วันทำการให้อัยการพิจารณาสำนวน
เนื่องจากเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจ นายพงษ์พิเชษฐ์ จันทรพรกิจ อธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด มีคำสั่งตั้งพนักงานอัยการมีทั้งระดับรองอธิบดีอัยการ อัยการพิเศษฝ่าย และระดับอัยการผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์คดีมากกว่า 20 ปีเข้ามาร่วมดูคดีนี้
โดยตั้งให้ น.ส.สุภาภรณ์ หรือ “อัยการดาว” เป็นเจ้าของสำนวน เเละเมื่อคณะพนักงานอัยการได้รับสำนวนก็ตรวจสำนวนเเล้ว พบว่าสำนวนไม่เรียบร้อยในประเด็นอันเป็นสาระสำคัญ มีคำสั่งตีกลับให้พนักงานสอบสวนทำมาใหม่ส่งมาใหม่ในวันที่ 1 ก.ย. จนกระทั่งวันที่ 2 ก.ย.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันครบกำหนดฝากขังทางพนักงานสอบสวน บช.ปส.จึงได้ส่งสำนวนมาอีกครั้ง
ทางคณะพนักงานอัยการก็มีการพิจารณาสำนวน เเละมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด พร้อมนำสำนวนไปยื่นฟ้องหมอแอร์กับพวก 12 รายไปได้ทัน ก่อนครบกำหนดสิ้นเวลาทำการฝากขังในวันสุดท้าย เรียกว่ายื่นฟ้องได้ทันฉิวเฉียด คดีจึงได้เข้าสู่การพิจารณาคดีของศาล เป็นเหตุให้หมอแอร์กับพวกยังถูกควบคุมตัว ไม่ถูกปล่อยขาดขัง
สำหรับข้อหาที่ยื่นฟ้อง 12 จำเลยชุดแรกประกอบด้วย ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อัลพราโซแลม, ฟลูไนตราซีแพม, ซูโดเอฟิดรีน และโซลพิเดม และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 (โคลนาซีแพม คลอราซีเพตและลอราซีแพม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายฯ 2.สั่งฟ้องหมอแอร์เพิ่ม ฐานเป็นข้าราชการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ประชาชนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
สำหรับคดีนี้ยังมีผู้ต้องหาที่ยังไม่ได้นำตัวมาฟ้องอีก 11 ราย ซึ่งใน 9 ราย ก็มีฐานะเป็นถึงแพทย์ ซึ่งเป็นอาชีพที่มีสถานะในสังคม ก็ต้องมาดูกันว่าผู้ใหญ่ในอัยการจะเลือกใครมาทำหน้าที่รับไม้ต่ออัยการดาวสู้คดีในชั้นศาลได้อย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งมีรายงานล่าสุดว่ามีผู้ต้องชุดใหม่บางส่วนถูกจับกุมตัวได้เเล้ว
โดยสามารถดูรายละเอียดคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2055/2568 เรื่อง ให้พนักงานอัยการช่วยราชการ ปฏิบัติราชการ และรักษาการในตำแหน่ง ได้ตามลิงก์ข้างล่าง
https://drive.google.com/file/d/1Dp4Kcbh1_Flknm6MF-XVqemldaWhIc8W/view?u...