เมื่อวันที่ 10 ก.ย.68 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งใหญ่ในกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อผู้ประท้วงจุดไฟเผารัฐสภาและอาคารทางการหลายแห่ง หลังจากรัฐบาลประกาศห้ามใช้โซเชียลมีเดีย นำไปสู่การชุมนุมครั้งใหญ่ของขบวนการ “Gen Z” ซึ่งขยายอิทธิพลไปทั่วประเทศ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 19 ราย และนับเป็นหนึ่งในการปราบปรามที่นองเลือดที่สุดในรอบหลายปี
สถานการณ์ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกองทัพเนปาลออกมาเตือนถึงความเสี่ยงต่อ “ความไม่สงบและความไม่มั่นคง” ขณะที่ผู้ประท้วงจำนวนมากบุกจุดไฟเผารัฐสภา บ้านพักนายกฯ เค.พี. ชาร์มา โอลี และอาคารสื่อขนาดใหญ่ Kantipur Media Group พร้อมชูธงชาติกลางถนน แม้รัฐบาลจะประกาศยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียในภายหลัง แต่การชุมนุมยังลุกลามต่อเนื่องไปหลายเมืองทั่วประเทศ
ด้านประธานาธิบดีรามจันทรา ปอเดล เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจ ขณะที่อินเดียและสหประชาชาติแสดงความกังวลและเร่งให้เจรจา ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังนายกรัฐมนตรีอาวุโสโอลียื่นจดหมายลาออกเพื่อเปิดทางสู่การแก้ไขวิกฤติ
นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่านี่คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ในเส้นทางประชาธิปไตยของเนปาล โดยคนรุ่นใหม่ที่มีสัดส่วนประชากรกว่า 40% กำลังถูกผลักดันให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทางการเมือง