วันที่ 9 ก.ย.2568 เวลา 23.20 น. พ.ต.ท.เจริญญา ปุริโส สารวัตรสภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถปิกอัพส่งของมีไฟลุกไหม้และเกิดระเบิดส่งผลให้มีรถของชาวบ้านที่จอดใกล้กับจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายหลายหลัง เหตุเกิดที่บริเวณสี่แยกเขางู ถนนเพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมืองราชบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี ในที่เกิดเหตุพบรถดับเพลิงของเทศบาลเมืองราชบุรี กำลังทำการฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้รถปิกอัพยี่ห้อ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีดำ หมายเลขทะเบียน บท-394 ชัยนาท ใช้เวลานานกว่า 10 นาที จึงสามารถดับไฟได้ทั้งหมดและพบว่าสภาพรถนั้นพังยับเยิน เศษชิ้นส่วนของตัวรถกระจายไปทั่วบริเวณถนนรวมทั้งสิ่งของต่างๆที่อยู่ในรถ ส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สำหรับตกปลาตกกระจายเกลื่อนถนน เจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่ามีรถยนต์ของชาวบ้านได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน กระจกหน้าต่างประตูของบ้านเรือนในบริเวณนั้นแตกความเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คือนายสรศักดิ์ มีพวงผล อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถคันที่เกิดเหตุ และนายสยามรัฐ ศรีโมรา อายุ 37 ปี เป็นเจ้าของบริษัทที่รับจ้างส่งของ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯได้นำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพฯเมืองราชบุรี อาการไม่สาหัส
จากการสอบถามนางสุดาคาร รัตนากร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/2 ถ.เพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมือง เล่าให้ฟังพร้อมกับพาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูในตัวบ้านก็พบว่าฝ้าเพดานหล่นลงมาเกือบทั้งหมด โคมไฟและพัดลมติดผนังนั้นหล่นลงมาด้านล่างแตกเสียหาย ขวดสุราและไวน์ที่เก็บสะสมไว้ในตู้โชว์กว่า 30 ปีก็หล่นลงมาแตกเสียหาย ซึ่งนางสุดาคาร บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุนั้นนอนอยู่หลังบ้านได้ยินเสียงคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด ซึ่งเสียงดังมากตกใจรีบวิ่งออกมาก็พบว่าสภาพบ้านนั้นพังเสียหายไปหมด และออกมาดูก็พบว่ารถที่เกิดเพลิงไหม้ก่อนจะเบิดนั้นเป็นรถที่รับจ้างส่งของเบ็ดเตล็ดทุกอย่างของคนข้างบ้าน ซึ่งมีหลายคันที่จอดเรียงอยู่หน้าบ้าน แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
ในเบื้องต้นได้รับข้อมูลมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจสอบในจุดเกิดเหตุทราบว่า รถคันที่เกิดเหตุนั้นเป็นรถปิกอัพที่มีตู้ทึบด้านในรถมีพลุระเบิดที่ใช้จุดในช่วงเทศกาลอยู่จำนวน 1 ลัง ซึ่งเป็นของเก่าที่ยังคงค้างสต็อกอยู่แต่คนขับรถไม่ได้นำออกมา ประกอบในรถนั้นมีสิ่งของที่จะต้องนำไปส่งให้กับร้านค้าต่างๆเต็มตู้ทึบ ซึ่งอาจจะเกิดการเสียดสีกันจนทำให้เกิดประกายไฟและลุกลามไปจนทำให้ไปติดพลุระเบิดที่อยู่ด้านใน จึงทำให้เกิดระเบิดขึ้น ซึ่งแรงระเบิดส่งผลให้รถตู้ทึบที่จอดใกล้กันรวมทั้งรถของชาวบ้านได้รับความเสียหาย รวมทั้งตัวบ้านด้วย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะต้องกันพื้นที่ดังกล่าวไว้เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป