วันที่ 9 ก.ย. 2568 เวลา 14.00 น. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าพบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ภายหลังถูกทาบทามให้เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ต่อมาเวลา 14.30 น. นายอนุทินและ พล.อ.ณัฐพล ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ โดยนายอนุทินกล่าวว่า ตนได้เชิญบุคคลภายนอกที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเข้ามาแนะนำให้ประชาชนทราบ ซึ่งได้หารือกับ พล.อ.ณัฐพล ในรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพื่อขอให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในรัฐบาลของตนเอง เพื่อให้ภารกิจการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะในทางทหารแล้ว การเปลี่ยนม้ากลางศึกเป็นสิ่งที่ไม่สมควร
นายกฯ กล่าวต่อว่า พล.อ.ณัฐพล ได้สอบถามถึงขอบเขตอำนาจในการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งตนได้ยืนยันว่าจะมอบอำนาจเต็มให้ดำเนินการ เพราะตนไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านการทหารเท่ากับ พล.อ.ณัฐพล ซึ่งมีประสบการณ์ทั้งจากตำแหน่งเจ้ากรมยุทธการทหารบก, เสนาธิการทหารบก, รองผู้บัญชาการทหารบก, และเลขาธิการสภาความมั่นคง ร่วมกันเป็นอย่างดี
เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายในการแก้ปัญหา นายอนุทินกล่าวว่า ตนต้องการให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีชีวิตที่เป็นปกติสุข มีสันติภาพ และสามารถค้าขายกันได้ตามปกติ โดยไม่มีรายได้ที่ต้องขาดหายไปจากความไม่เข้าใจหรือปัญหาที่ไม่ได้เกิดจากพวกเขาเอง
ด้าน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องความลำบากใจในการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ คนเก่า แต่ในวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) ตนจะต้องเดินทางไปประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งนายกฯ ได้มอบหมายให้ตนเข้ามารับทราบนโยบายเพื่อนำไปใช้ประกอบการประชุมในวันพรุ่งนี้
“หลังจากได้พูดคุยกับนายกฯ แล้วก็มีความมั่นใจมากขึ้น หลังจากได้ทราบนโยบายที่ชัดเจน ซึ่งเน้นเรื่องของอธิปไตยและการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและประชาชนต้องปลอดภัย ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็เห็นด้วยกับโรดแมปที่ผมดำเนินการอยู่ แต่ก็ได้กำชับว่าต้องทลายข้อจำกัด เพื่อเร่งแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด เพราะรัฐบาลมีเวลาจำกัด” พล.อ.ณัฐพล กล่าว
เมื่อถามถึงโรดแมปที่ดำเนินการอยู่จะสามารถพลิกสถานการณ์ให้ได้ภายใน 4 เดือนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตนจะทำอย่างเต็มที่ แต่ไม่สามารถรับปากได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ แต่เมื่อได้รับทราบนโยบายที่ชัดเจนแล้ว ก็พร้อมที่จะทำให้เร็วที่สุด