แม่พลทหารที่พลีชีพในช่วงการปะทะทหารไทยกับทหารกัมพูชา ยังทำใจไม่ได้เมื่อเห็นบ้านที่ผู้ใจบุญกำลังสร้างให้ ประตูรั้วแสดงสัญลักษณ์ เสียใจที่ลูกไม่ได้เห็นบ้านความฝันของเขา เผยทุกครั้งที่คิดน้ำตาจะหลั่ง ฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่หาข้อยุติกับเขมรโดยเร็ว และหากร้ายแรงก็ขอให้จัดการขั้นเด็ดขาด

วันที่ 9 ก.ย.68 กรณีที่พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่เลขที่ 289 หมู่ 20 ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตระหว่างการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเป็นการเสียชีวิตของแนวหน้าที่สังคมให้ความสนใจ เนื่องจากมีการเปิดภูมิหลังครอบครัวพลทหารธีรยุทธ ที่ต้องอาศัยอยู่บนที่ดินของหลวง(บท5)คนในครอบครัวปลูกกระท่อมส่วนตัวคนละหลังเพื่อใช้เป็นที่หลับนอน ไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า และพบโครงสร้างบ้านหลังหนึ่งอยู่ในที่ดิน มีเพียงเสากับหลังคาบ้าน ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าโครงสร้างบ้านดังกล่าว เป็นเงินของพลทหารธีรยุทธ ที่เก็บออมไว้และฝันว่าจะสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่อยู่ แต่กลับมาเสียชีวิตก่อน จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานบ้านชั่วคราวให้ทันที และมีคนไทยส่วนหนึ่งบริจาคเงินเพื่อให้มาสร้างบ้านใหม่ให้ครอบครัวพลทหารธีรยุทธ

ล่าสุดจากการตรวจสอบพบว่าพ่อแม่ของพลทหารธีรยุทธ อาศัยอยู่ในบ้านพระราชทานซึ่งเป็นบ้านน็อคดาวน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนโครงสร้างที่พลทหารธีรยุทธ ได้ทำการฝังเสามุงหลังคาไว้นั้น ได้มีการรื้อถอนออกและกำลังเริ่มก่อสร้างหลังใหม่ให้ ตามเจตนารมณ์ของผู้ใจบุญ โดยเฉพาะประตูรั้วของบ้านที่สร้างเสร็จแล้ว ได้เขียนข้อความสลักไว้ชัดเจนหลายข้อความ เช่น”ร่วมจารึกประวัตศาสตร์ ยกย่องวีชนทหารกล้าที่เสียสละ หรือสดุดีความกล้าหายญ ความเสียสละ อยู่ในหัวใจคนไทยตลอดกาล”

นางสมศรี กระจ่างทอง อายุ 61 ปี แม่ของพลทหารธีรยุทธ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ในแต่ละวันเมื่อตื่นมาจะเอาผ้าไปเช็ดภาพลูกชายที่ตั้งไว้ทุกวัน หากคิดย้อนหลังตนต้องน้ำตาซึมทุกครั้ง ตอนที่คุยกับลูกว่าถ้ากลับมาจะต้มไก่ให้กิน แต่ไม่ได้กิน บ้านที่ลูกฝันอยากได้และพยายามเก็บเงินอันน้อยนิดหวังมาสร้างบ้านใหม่ให้พ่อแม่ ตอนนี้ได้เกือบครบหมดแล้ว ลูกก็ไม่ได้มาอยู่ ถึงแม้จะเสียใจแค่ไหนแต่ก็ดีใจที่ลูกชายได้รับใช้ชาติมีคนชื่นชมทั่วประเทศ และอยากฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ให้รีบเจรจากับกัมพูชา ให้เรื่องยุติไปในทางใดทางหนึ่ง หรือหากเกิดความรุนแรงก็ขอให้ใช้วิธีเด็ดขาดเพราะประชาชนชาวไทยที่อยู่ตามแนวชายแดนจะได้อาศัยอยู่กันอย่างมีความสุข