วันที่ 9 กันยายน 2568 ที่ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้รายงานสถานการณ์ฝนตกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่วันที่ 6-7 กันยายน 2568 พื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักคิดเป็นปริมาณน้ำสูงถึง 14.05 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุด สถานการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านใกล้พื้นที่กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม ร่องความกดอากาศต่ำได้ขยับขึ้นไปทางภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบนแล้ว อาจทำให้ปริมาณฝนในกรุงเทพฯ ลดลง และเป็นช่วงเวลาที่กรุงเทพมหานครจะเร่งสูบน้ำในคลองต่าง ๆ
สำหรับพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากในบางพื้นที่ของภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงควรระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังหรือน้ำรอการระบาย โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สถานการณ์นี้เป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย
ในส่วนของกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันนี้คาดการณ์ว่าจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะมีฝนหนักถึงหนักมาก ได้แก่ เขตหนองจอก มีนบุรี และลาดกระบัง ขณะที่พื้นที่ที่คาดว่าจะมีฝนปานกลาง ได้แก่ บางกะปิ พระโขนง บางขุนเทียน ประเวศ คลองเตย สวนหลวง วัฒนา สะพานสูง คลองสามวา บางนา และทุ่งครุ อุณหภูมิต่ำสุดคาดการณ์ที่ 24-25 องศาเซลเซียส และสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส โดยมีลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาจนถึงเวลา 07.00 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2568 กรุงเทพมหานครมีฝนตกปานกลางถึงหนัก โดยวัดปริมาณฝนสูงสุดได้ที่จุดวัดสำนักงานเขตคลองสามวา 77.5 มิลลิเมตร รองลงมาคือคลองบางเชือกหนัง-วัดปากน้ำฝั่งใต้ เขตภาษีเจริญ 52.0 มิลลิเมตร และคลองลำชะล่า-ถนนนวมินทร์ เขตคันนายาว 45.0 มิลลิเมตร แม้จะมีฝนตกต่อเนื่อง แต่มีรายงานว่าจุดเร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักจำนวน 6 รายการ ปัจจุบันแห้งเป็นปกติแล้ว
สถานการณ์ระดับน้ำในแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก ณ เวลา 07.00 น. ของวันที่ 9 กันยายน 2568 พบว่ามีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) มีระดับน้ำอยู่ที่ +1.57 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติ (ระดับวิกฤติ +1.80 ม.รทก.) ส่วนประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) มีระดับน้ำ +0.68 ม.รทก. ซึ่งอยู่ในระดับเตือนภัย (ระดับวิกฤติ +0.70 ม.รทก.) แต่ประตูระบายน้ำลาดกระบังมีระดับน้ำวิกฤติแล้วที่ +0.46 ม.รทก. ซึ่งสูงกว่าระดับวิกฤติที่กำหนดไว้ที่ +0.35 ม.รทก.
สำหรับระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวานนี้ (8 กันยายน 2568) ได้ขึ้นสูงสุดที่สถานีสูบน้ำบางนา +1.70 ม.รทก. เวลา 19.30 น. และสถานีสูบน้ำบางเขนใหม่ +1.98 ม.รทก. เวลา 19.15 น. ฐานน้ำขึ้นสูงสุดแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าสถานีกองบัญชาการกองทัพเรือในวันนี้ (9 กันยายน 2568) คาดว่าช่วงเช้าจะอยู่ที่ 0.72 ม.รทก. เวลา 06.56 น. และช่วงบ่ายจะสูงถึง 1.00 ม.รทก. เวลา 20.40 น. ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาในวันนี้ (9 กันยายน 2568) ที่นครสวรรค์อยู่ที่ 2,067 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และที่เขื่อนเจ้าพระยา 1,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ในส่วนของสภาพคลื่นลมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และสูงมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และสูงกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองเช่นกัน จึงขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ด้านค่าความเค็มสูงสุดของแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2568 อยู่ที่ 0.1 กรัมต่อลิตร ซึ่งต่ำกว่าค่าเฝ้าระวัง 1.2 กรัมต่อลิตร ที่อาจส่งผลกระทบต่อพืชทั่วไป