ระเบียบ “คุมขังนอกเรือนจำ” ถูกพูดถึงอีกครั้ง ว่าระเบียบฉบับดังกล่าวที่ออกโดย “กรมราชทัณฑ์” กระทรวงยุติธรรมที่ผ่านมา อาจถูกนำมาใช้ รองรับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่ หากคำพิพากษาของศาลฎีกา ฯ “คดีชั้น14” ออกมาเป็น “ลบ”

 

โดยในวันพรุ่งนี้ 9 ก.ย.2568 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด ของอดีตนายกฯทักษิณ

ทั้งนี้ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ถูกจับตาและมีการตั้งข้อสังเกต ตั้งแต่แรกเมื่อมีรายงานข่าวออกมา ตั้งแต่เมื่อเดือนธ.ค.2566 “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์”  อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ลงนามประกาศระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 หรือ ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ เพื่อพิจารณาให้ผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์ ได้คุมขังยังสถานที่ที่ไม่ใช่เรือนจำ

โดยกรมราชทัณฑ์ ให้เหตุผลว่า เพื่อลดความแออัดของเรือนจำ และเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมราชทัณฑ์ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้ามและวิธีการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ. 2566 พ.ศ. เพื่อทบทวนแก้ไขตามความเหมาะสม

จากนั้น เมื่อวันที่ 9 เม.ย.68   "ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่ ประกาศกรมราชทัณฑ์ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติเฉพาะ ลักษณะต้องห้าม และวิธีการคุมขังผู้ต้องขังในสถานที่คุมขัง ตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 

สำหรับระเบียบฉบับนี้ มีการจับตาตั้งแต่แรกว่าเป็นการออกระเบียบเพื่อเอื้อ ต่อทักษิณ หรือไม่ เพื่อเตรียมรองรับให้มีการ “จำคุกนอกเรือนจำ” ซึ่ง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม ในขณะนั้น ได้ออกมาชี้แจงว่า ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง 2566 ที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับสถานที่คุมขังอื่นที่ไม่ใช่เรือนจำ นั้นเกิดจาก พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 แต่กฎหมายรอง หรืออนุบัญญัติต่างๆ ต้องมีออกมาให้ครบ เหมือนบางกระทรวงที่มีกฎหมาย แต่ไม่สามารถออกอนุบัญญัติได้ ทำให้ใช้กฎหมายได้ไม่ครบถ้วน ส่วนรายละเอียดให้ไปตรวจสอบอีกครั้ง

ส่วนทักษิณ จะได้รับประโยชน์จากระเบียบดังกล่าวหรือไม่นั้น สมศักดิ์ ระบุว่า “ ไม่ทราบ ต้องไปดูรายละเอียด เพราะไม่ได้ติดตาม” 

สำหรับสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ คือ “ทางออก” ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า หากคำพิพากษาของศาลฎีกาฯ วันพรุ่งนี้ออกมาเป็นลบ เมื่อเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องในการส่งตัวทักษิณออกไปรักษาตัวที่ชั้น14 โรงพยาบาลตำรวจถูกลงโทษ สิ่งที่จะตามมา ย่อมไปถึง  “กระบวนการบังคับโทษ” ไม่เป็นไปตามกฎหมาย และมีคำสั่งให้ทักษิณ เข้าไปรับโทษในเรือนจำใหม่ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยเข้าเรือนจำเลยสักวันเดียว

และนั่นย่อมอาจหมายถึง การนำระเบียบว่าด้วย “คุมขังนอกเรือนจำ” กลับมารองรับ หรือไม่ ซึ่งนิยามสถานที่นอกเรือนจำ นั้นจะหมายถึง บ้านที่มีเลขที่ทะเบียนบ้าน อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต้องมีเลขที่อาคาร เลขที่ห้อง อักษรหรือสัญลักษณ์อื่นใด โดยมิใช่ “เรือนจำ” ให้ต้องอยู่เหมือนเช่นนักโทษโดยทั่วไป อยู่ดี !