วันที่ 8 กันยายน 2568 สถานการณ์น้ำจากปริมาณฝนในพื้นที่กรุงเทพมหานครยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเขตลาดกระบังที่เผชิญกับปริมาณฝนตกหนักสูงสุดถึง 94.0 มิลลิเมตรในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำที่ประตูระบายน้ำลาดกระบังอยู่ในภาวะวิกฤติ ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และเจ้าหน้าที่จากสำนักการระบายน้ำ (สนน.) ได้ลงพื้นที่ถนนหลวงแพ่ง เขตลาดกระบัง เพื่อติดตามสถานการณ์และบัญชาการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด

จากข้อมูลปริมาณฝนสะสมในรอบ 24 ชั่วโมง ซึ่งวัดได้ถึงเวลา 07.00 น. ของวันนี้ (8 กันยายน 2568) พบว่ามีฝนตกปานกลางถึงหนักทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ โดยจุดที่วัดปริมาณฝนสูงสุดคือ จุดวัดคลองประเวศฯ-ถนนร่วมพัฒนา เขตลาดกระบัง ที่ 94.0 มิลลิเมตร รองลงมาคือจุดวัดคลองบางนา-ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา 84.5 มิลลิเมตร จุดวัดคลองสนามชัย-คลองบางขุนเทียน เขตจอมทอง 57.5 มิลลิเมตร จุดวัดสถานีสูบน้ำดาวคะนอง เขตธนบุรี 55.5 มิลลิเมตร และจุดวัดประตูระบายน้ำคลองหลวงแพ่ง เขตหนองจอก 53.0 มิลลิเมตร

ปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักส่งผลกระทบโดยตรงต่อระดับน้ำตามแนวคันกั้นน้ำด้านตะวันออก ประตูระบายน้ำลาดกระบังมีระดับน้ำสูงถึง +0.46 ม.รทก. ซึ่งสูงกว่าระดับวิกฤติที่ +0.35 ม.รทก. และถือเป็นระดับน้ำวิกฤติแล้ว ในขณะที่ประตูระบายน้ำคลองสอง (สายใต้) และประตูระบายน้ำแสนแสบ (มีนบุรี) ยังคงอยู่ในระดับปกติ โดยมีระดับน้ำอยู่ที่ +1.46 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +1.80) และ +0.59 ม.รทก. (ระดับวิกฤติ +0.70) ตามลำดับ

นายชัชชาติ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขตลาดกระบัง หลังจากคืนวานนี้ (7 กันยายน 2568) มีฝนตกหนัก 94 มิลลิเมตรในพื้นที่ลาดกระบัง และมีปริมาณฝนจำนวนมากในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ กทม. เผชิญกับปัญหาการระบายน้ำออกจากเขตลาดกระบัง เนื่องจากน้ำจากพื้นที่นี้ส่วนหนึ่งต้องระบายลงสู่คลองประเวศบุรีรมย์เพื่อออกสู่ประตูน้ำท่าถั่ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งดูแลโดยกรมชลประทาน อีกส่วนหนึ่งต้องระบายย้อนกลับมาออกประตูน้ำพระโขนง เขตพระโขนง สู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่ง กทม. เป็นผู้ดูแล

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบันคือน้ำในจังหวัดฉะเชิงเทรามีปริมาณมากเกินกว่าจะรับน้ำจากเขตลาดกระบังเพิ่มเติมได้ ทำให้กรมชลประทานต้องลดการสูบน้ำที่ประตูน้ำท่าถั่วจากเดิม 16 เครื่อง เหลือเพียง 3 เครื่อง ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นที่ต้องสูบน้ำกลับมาออกที่ประตูน้ำพระโขนงเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำอย่างเต็มที่

นอกจากปริมาณฝนภายในพื้นที่และข้อจำกัดในการระบายน้ำแล้ว เขตลาดกระบังยังต้องรับมือกับน้ำปริมาณมากจากจังหวัดสมุทรปราการที่อาจเอ่อล้นในช่วงระยะหนึ่งระหว่างพื้นที่ติดกับกรุงเทพมหานคร รวมถึงอาจมีน้ำจากเขตหนองจอกและพื้นที่ด้านบนของเขตลาดกระบังไหลเข้ามาสมทบอีกด้วย ทำให้เขตลาดกระบังอาจมีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก

ปัจจุบันยังไม่พบน้ำท่วมขังบนถนนสายหลักในเขตลาดกระบัง แต่ กทม. ได้รับแจ้งจากชุมชนและคอนโดมิเนียมบางส่วนว่าได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำ และหลายแห่งอยู่ระหว่างการเชื่อมต่อท่อระบายน้ำที่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ กทม. จึงอยู่ระหว่างรวบรวมจุดน้ำท่วมต่าง ๆ ในเขตลาดกระบัง เพื่อติดตามและเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป

"ปัญหาเขตลาดกระบังคือพื้นที่รอบ ๆ มีน้ำปริมาณมาก ทั้งจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมถึงต้องรับน้ำจากพื้นที่ด้านบนเพิ่มเติม ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกนอกพื้นที่ได้ทันที สถานการณ์ตอนนี้ต้องเร่งระบายน้ำออกทางประตูน้ำพระโขนงเป็นหลัก ประชาชนที่ประสบปัญหาสามารถแจ้งหน่วยงาน กทม. ได้ทันที เจ้าหน้าที่พร้อมดำเนินการ" นายชัชชาติ กล่าว