กรมการศาสนาเปิดงาน Open House ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) และมหกรรมศีลธรรมเยาวชนฯ ที่สุราษฎร์ธานี ดึงคนรุ่นใหม่ร่วมสืบสานพระพุทธศาสนา

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2568 นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานเปิด โครงการ Open House ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.)  และ โครงการมหกรรมศีลธรรมเยาวชน ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 ณ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมี นายสุคนธ์ หนูภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชวลิต โรจนรัตน์ นายอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี นางโสภา กาญจนะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี นางอุบล ศักดิ์แก้ว รักษาราชการวัฒนธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวรายงาน พร้อมด้วยเยาวชน นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ภาคใต้เข้าร่วมงาน

นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ จัดตั้งขึ้นโดยภาคคณะสงฆ์ โดย กรมการศาสนาได้สนับสนุน ส่งเสริม เพื่อให้การดำเนินงานเกิดความเข้มแข็งและมั่นคง ให้ ศพอ. เป็นศูนย์เรียนรู้คู่คุณธรรม ที่เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน และประชาชน ได้ศึกษาเรียนรู้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาได้ถูกต้องตามสมควรแก่ภูมิปัญญาของตน เพื่อเป็นการส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา สนับสนุนให้วัดมีบทบาทในการปฏิบัติภารกิจด้านการศึกษาสงเคราะห์ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบ้าน วัด โรงเรียน หรือบวร ให้มีความผูกพันกลมเกลียวอันเป็นเอกลักษณ์ของวิถีไทยที่เคยมีมา เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันหลักของชาติได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน กรมการศาสนา มีระเบียบว่าด้วยศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. 2562 รวมทั้ง ประกาศกรมการศาสนา เรื่อง การจัดชั้นเรียนและหลักสูตรการเรียนการสอนของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ พ.ศ. 2562 เพื่อให้การเรียนการสอนแก่เด็กและเยาวชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผลในการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม เผยแผ่หลักธรรมสู่เด็ก เยาวชน และประชาชน ที่จะให้ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เป็นศูนย์เรียนรู้คู่คุณธรรมของคนในชุมชน “ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์” ใช้หลักสูตรการเรียนการสอนของภาคคณะสงฆ์ คือ หลักสูตรธรรมศึกษาชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก เป็นวิชาบังคับ โดยมีวิชาเลือกอย่างน้อย 1 วิชา เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาต่างประเทศอื่นๆ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาภาษาไทย วิชาดนตรีไทย วิชาศิลปะ วิชาคอมพิวเตอร์ วิชาวัฒนธรรมไทย มีกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน และส่งเสริมให้ให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมในกิจกรรมทางศาสนา อาทิ กิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา กิจกรรมวันสำคัญทางสถาบันพระมหากษัตริย์ กิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ประเพณีท้องถิ่น เป็นต้น

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวต่อไปว่า  “ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์” ที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของกรมการศาสนา ปัจจุบันมีอยู่ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งหมด 2,805 ศูนย์ แบ่งเป็น ส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) จำนวน 47 ศูนย์ และส่วนภูมิภาค ๗๖ จังหวัด จำนวน 2,758 ศูนย์ ทำการเปิดการเรียนการสอนในวันอาทิตย์และวันอื่นๆมีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และไม่น้อยกว่า 80 ชั่วโมงต่อปี โดยให้เป็นไปตามบริบท อัตลักษณ์ของพื้นที่ เปิดโอกาสให้เด็ก เยาวชน ประชาชนทุกกลุ่มวัยที่มีความสนใจได้สมัครเข้าเรียน เพื่อเพิ่มพูนความรู้แก่ตนเอง ดังนั้น ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าศึกษาได้ตามความสะดวกของตนเอง เพื่อเพิ่มเติมความรู้ด้านพระพุทธศาสนา ด้านศาสนพิธี เสริมสร้างประสบการณ์ด้านศาสนปฏิบัติจากการได้สัมผัสจริง เกิดความภาคภูมิใจในตนเองและเห็นคุณค่าของศาสนาและประเพณีวัฒนธรรมไทย สมกับการได้เกิดมาเป็นพุทธศาสนิกชนที่มีศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจที่ทรงคุณค่า นำมาซึ่งความสงบร่มเย็นในสังคมอย่างแท้จริง

อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงวัฒนธรรมดังกล่าว กรมการศาสนา จึงได้กำหนดจัดโครงการ Open House ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) และ โครงการมหกรรมศีลธรรมเยาวชน ครั้งที่ 9 ประจำปี 2568 กิจกรรมภายในงานมุ่งเน้นการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่เยาวชนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ การประกวดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน 9 กิจกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงความสามารถและศักยภาพด้านศาสนาและคุณธรรม การจัดบูธนิทรรศการ แสดงผลงานของศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ (ศพอ.) และโรงเรียนคุณธรรมต้นแบบ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจ เวทีเสวนา "เยาวชนกับพระพุทธศาสนาในยุคปัจจุบัน" เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความเข้าใจในบทบาทของพระพุทธศาสนาต่อชีวิตเยาวชนในยุคดิจิทัล พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูผู้ทำคุณประโยชน์ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาและผู้มีผลงานดีเด่น ได้แก่ โล่ประกาศเกียรติคุณผู้ทำคุณประโยชน์ต่อ ศพอ.วัดโพธาวาส จำนวน 19 ราย, โล่รางวัล "ยุวชนคุณธรรม" จำนวน 4 ราย และโล่รางวัลชนะเลิศจากการประกวดกิจกรรมของงานมหกรรมเยาวชนวิถีธรรม จำนวน 19 โล่ ทั้งนี้ การจัดงานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกรมการศาสนาในการส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรมในหมู่เยาวชน พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนให้พระพุทธศาสนาเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาสังคมไทยให้ยั่งยืนต่อไป