วันที่ 6 ก.ย. 68 ที่พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกัน ที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกัน

จากนั้นนายอนุทิน ได้แนะนำตัวแต่ละคนกับสื่อมวลชน พร้อมระบุถึงว่าที่ตำแหน่งที่ชัดเจนโดยนายสีหศักดิ์จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายเอกนิติ จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมระบุว่าเลือกจากความสามารถ ประสบการณ์ความทุ่มเทเสียสละ ซึ่งเมื่อทั้งหมดตอบรับชัดเจนก็ไม่ต้องมาคอยคาดการณ์ว่า ใครจะดำรงตำแหน่งอยู่ตรงไหน เดี๋ยวจะทำงานกันไม่สะดวก เพราะเวลาเรามีน้อยก็จะเริ่มเตรียมงานและประสานงานกันไว้ก่อน หลังเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก็จะได้ทำงานได้เลย 

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีในสัดส่วนคนนอกยังมีอีก หลังจากนี้ก็จะทยอยแนะนำให้ประชาชนรับทราบ ที่แน่แล้วคือกระทรวงการคลังและกระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อถามถึง ความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากกระทรวงการคลังในระยะสั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ในกระทรวงการคลังมาโดยตลอด มีประสบการณ์การทำงาน ทั้งต่างประเทศ และในประเทศ เป็นอธิบดีมาหลายกรม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต และอธิบดีกรมธนารักษ์ ท่านมีความรู้ความสามารถ ที่จะประสานงานกับฝ่ายประจำ ทำงานต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า การฟื้นโครงการคนละครึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หมด ถ้าเป็นประโยชน์และเป็นความต้องการของประชาชน วันนี้ก็ดูเต็มฟีดก็จะเร่งมอบหมาย ให้ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเร่งพิจารณา เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะได้ดำเนินการต่อไปเพราะเวลาเรามีน้อย ไม่มาก

เมื่อถามว่า จะมีการสานต่อจากแอปพลิเคชัน เดิมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อะไรที่ดีก็จะทำต่อ เราไม่มีเข้ามาแล้วบอกว่าอันนี้ไม่ใช่ของเรา ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลของตนจะไม่ทำ

เมื่อถามว่า ข้อพิพาทไทย- กัมพูชา เรื่องการแก้ไข MOU 43 และ 44 นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าพูดถึงชื่อ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เชื่อว่าทุกคน ที่อยู่ในวงการการทูตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจ น่าจะมีความพึงพอใจและมั่นใจ รัฐบาลนี้เข้ามา ท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพราะฉะนั้น ต้องนำผู้ที่มีประสบการณ์ ต้องได้รับการยอมรับจากนานาชาติแก้ไขปัญหาโดยเร็ว 

เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ต้องวางพื้นฐานให้เป็นระยะยาว ส่วนที่มองว่าเป็นเผือกร้อนหรือไม่ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องให้ความสำคัญ

นายอนุทิน กล่าวว่า ว่าที่รัฐมนตรีโควตาคนนอกกว่าจะตอบรับตน ใช้เวลาหลายวันหลายคืน เพราะอธิบดีเอกนิติมีอายุราชการเหลืออีก 6 ปี ซึ่งความรู้ความสามารถยังมีอนาคตในทางราชการ สามารถก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้อีก แต่ท่านก็เสียสละ เราเห็นพ้องต้องกันว่า เรื่องประเทศชาติ เรื่องพี่น้องประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งคุณสมบัติความรู้ความสามารถของท่านขณะนี้ต่อให้พ้นวาระนี้ไป คงจะมีเส้นทางในอาชีพของท่านได้มากมาย ซึ่งท่านขอเวลาคิด 2-3 คืน ก็ตัดสินใจมาร่วมทำงาน ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต โดยมุ่งมั่นถึง ประเทศของเรา และพี่น้องประชาชน

นายอนุทิน กล่าวว่า หน้าตาครม.ไม่ขี้เหร่แน่นอน ต้องเป็นครม. ที่เข้ามาแล้ว ทำงานได้เลย สโลแกนทำวันนี้เสร็จเมื่อวานของตนก็ยัง ถือว่าเป็นแนวทางการทำงานของพวกเราอยู่

เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าจะทำให้เร็วที่สุด และคอยคิดถึงกฎเกณฑ์ต่างๆทางการเมือง และเรื่องทางการเมืองตนคิดว่ามีความชัดเจนแล้ว อีก 4 เดือนก็ต้องยุบสภา ดังนั้นต้องทำทุกอย่างภายในอีก 4 เดือนให้เกิดผลงาน ให้เกิดความคืบหน้าและการแก้ปัญหา ให้มากที่สุด

เมื่อถามว่า มีโครงการใดที่ ครม.ชุดใหม่ ต้องการทำเพิ่มอีกบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ใจเย็นๆ ให้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายในแต่ละกระทรวง มีอำนาจเต็มที่ในการกำหนดนโยบาย ด้วยความรวดเร็วโดยไม่ต้องรอว่าหัวหน้ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ ซึ่งจะมาพูดว่าเดี๋ยวจะขัดกับพรรคโน้นพรรคนี้หรือไม่ ตนรับรองว่าไม่มี เราจะเอาประสบการณ์ที่มี ของรัฐบาล 2-3 ชุดที่ผ่านมา ที่เห็นจุดอ่อนของการมีปัญหาและไม่ทำงาน ที่กังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบกัน

ทั้งนี้ระหว่างที่นายอนุทินได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนนายอรรถพล ได้เดินเข้ามาสมทบทำให้นายอนุทิน พูดขึ้นมาว่า ท่านมาแล้วความลับแตกหมดเลย ก่อนจะหัวเราะ 

จากนั้นนายอรรถพล ก็ได้แนะนำตัวเอง ตำแหน่งที่เคยเป็นอดีต CEO ของปตท. ทำแน่นอนก่อนที่นายอนุทินจะแซวขึ้นมาว่าไม่ได้เอามาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า เหตุผลที่เป็นนายอรรถพล นายอนุทิน กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกว่าเป็นรัฐบาลที่มีภารกิจแน่นอน เราต้องได้ผู้ที่เข้ามาแล้ว ทำงานได้เลย ไม่ต้องมาเรียนรู้งาน แต่ละท่าน ที่เข้ามาก็ล้วนแต่เป็นผู้บริหารสูงสุด ในองค์กรที่ท่านกำลังจะเข้าไปรับผิดชอบ ดังนั้นจะเป็นการสร้างความมั่นใจว่า เราจะสามารถเดินหน้าได้ดี ไม่ต้องรำมวย 

เมื่อถามว่า กระทรวงกลาโหมควรจะเป็นทหารเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องการให้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ

เมื่อถามว่า กระแสข่าวร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แข่งกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากตรงไหนมีความชัดเจน ก็จะพามาเปิดตัวเช่นนี้ เพื่อให้ประชาชนรับทราบโดยไม่ต้องคาดเดา ดังนั้นการที่ยังไม่พาคนอื่นมา แสดงว่ายังไม่แล้วเสร็จ หรือมีคำถามที่จะต้องเคลียร์กันก่อน

เมื่อถามว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้จำเป็นจะต้องเป็น พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่าอย่าถามแบบนี้ อะไรที่ตอบได้ก็ตอบ เพราะสไตล์การทำงานของตนไม่ต้องการให้ประชาชนมาคาดการณ์ใดๆ ถ้ามีความชัดเจนแล้วก็จะนำมาแนะนำตัวต่อประชาชนทุกคนให้รับรู้ รับทราบ ว่ารัฐบาลจะเป็นไปในทางใด พยายามจะทำงานให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ให้ทำเหมือนว่ามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศร่วมกัน ฝ่ายการเมืองอย่างพวกเราฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นหลักอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ภาพของครม.อนุทิน จะออกมาเป็นแบบใด นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นภาพมืออาชีพที่ทำงาน ผู้ที่ร่วมทำงานทุกคนมีความเป็นพี่น้องสมัครสมาน สามัคคี เพราะตนเป็นสมาชิก ใน 36 คนมาหลายสมัย มีความรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบจะไม่เลย คุยแต่เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไม่เคยมีการตัดสินใจร่วมกันเลย ภาพแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ในรัฐบาลของตนแน่นอน เนื่องจากทุกคนจะต้องเข้าใจเป้า หมายเดียวกันและเข้าใจภารกิจที่เรามีอย่างจำเพาะ ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่พรรคนี้เสนอ พรรคนี้ค้าน หัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่มองว่าอันนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพรรคตนเองก็ให้เรื่องช้าหน่อย สิ่งเหล่านี้จะไม่มี

ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามถึงตำแหน่งของนายสันติที่จะมานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน กล่าวแต่เพียงว่า ฝ่ายการเมืองเดี๋ยวมาพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อรัฐมนตรีป้ายแดงทั้ง 4 คนได้นั่งพูดคุยกับนายอนุทินด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง และมีการเสิร์ฟเมนูเค้กส้มด้วย