เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อน 1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขาหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร ถนนทางเข้าชุมชน วัด และโรงเรียนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ ชาวบ้านเริ่มได้รับผลกระทบในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลบางบาล อำเภอบางบาล ระดับน้ำในคลองบางหลวงที่รับมวลน้ำจากเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงจนล้นตลิ่ง ท่วมชุมชนและพื้นที่เกษตรหลายแห่ง ถนนบางสายถูกน้ำท่วม ทำให้การสัญจรลำบาก น้ำท่วมสูงถึงระดับเอว
ด้านนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่อำเภอเสนา เพื่อตรวจสอบสถานการณ์น้ำ ติดตามแนวเขื่อนตลาดบ้านแพนและพื้นที่เศรษฐกิจ รวมถึงจุดล่อแหลมที่เสี่ยงน้ำล้นตลิ่ง
ผู้ว่าฯ นิวัฒน์ เปิดเผยว่า กรมชลประทานจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาเป็น 1,500–2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก 0.30 – 1.10 เมตร จึงต้องเร่งตรวจสอบและซ่อมแซมแนวคันกั้นน้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่ว่าการอำเภอเสนา ที่มีการทรุดตัวระยะทางกว่า 250 เมตร พร้อมสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานในพื้นที่ เตรียมความพร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรกล และจัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ประกาศแจ้งเตือนให้ชาวบ้านยกสิ่งของขึ้นที่สูง และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม