เมื่อวันที่ 6 ก.ย.68 พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภะมาศ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ธนาทัศน์ ศรีพิพัฒน์ ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ธีรภพ พันธุชาติ รอง ผกก.2 บก.ปคบ. พ.ต.ท.จำรูญ คำมา, พ.ต.ต.เนติรัฐ ไชยสถิตย์ สว.กก.2 บก.ปคบ.  พร้อมด้วยชุดปฏิบัติการที่ 1, 2 และ 4 กก.2 บก.ปคบ.​ร่วมกับกรมปศุสัตว์ เข้าตรวจค้นห้องเย็น 3 จุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

สามารถยึดซากเนื้อต้องและเครื่องในสงสัยได้กว่า 190,478 กิโลกรัม ประกอบด้วยเนื้อโค 3,550 กิโลกรัม, เนื้อกระบือ 140 กิโลกรัม และเครื่องในโคจำนวนมหาศาลถึง 186,788.07 กิโลกรัม  ซึ่งเจ้าของไม่สามารถแสดงเอกสารแหล่งที่มาได้อย่างถูกต้องคิดเป็นมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 15 ล้านบาท

จากการตรวจสอบ พบว่า​ผู้ประกอบการรายนี้เคยมีพฤติกรรมกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2566 และคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งอายัดซากสัตว์ทั้งหมดไว้ชั่วคราว และให้เวลาผู้ประกอบการ 15 วัน เพื่อนำหลักฐานมาชี้แจงแหล่งที่มา หากไม่สามารถทำได้จะถูกดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้​หากเนื้อสัตว์เหล่านี้ถูกกระจายออกสู่ท้องตลาดโดยไม่มีการตรวจสอบ อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งสุขภาพของประชาชนและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคจากสัตว์สู่คน เช่น โรคลัมปี สกิน หรือโรคปากและเท้าเปื่อย และยังเป็นการทำลายผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างสุจริต