ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 จาการโหวตด้วยคะแนน 311 เสียง

วันนี้ “สยามรัฐ ออนไลน์” เปิดประวัติและเส้นทางการเมือง ของนายกฯคนที่ 32 ของประเทศ

“อนุทิน” เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2509 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรชายคนโตของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (STECON) เขามีพี่น้อง ได้แก่ นายมาศถวิน ชาญวีรกูล และนางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์

“อนุทิน” มีชื่อเล่นว่า “หนู” หรือ “เสี่ยหนู” ในช่วงดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเขาเป็นบุตรคนโตของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และผู้ก่อตั้งบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (STECON) มีน้องชายได้แก่ นาย มาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) น้องสาวหนึ่งคน คือนางอนิลรัตน์ นิติสาโรจน์ กรรมการ บริษัท เอสที พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด

อนุทิน สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยฮอฟสตรา (Hofstra University)​ รัฐนิวยอร์ก​สหรัฐ​ เมื่อปี พ.ศ. 2532 และจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Mini MBA) เมื่อปี พ.ศ. 2533

ชีวิตส่วนตัว สมรสครั้งแรกกับสนองนุช (สกุลเดิม วัฒนวรางกูร) เมื่อปี พ.ศ. 2533 มีบุตร 2 คน คือ นัยน์ภัค และเศรณี ชาญวีรกูล ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 เขาได้หย่ากับสนองนุช และสมรสใหม่กับศศิธร (สกุลเดิม จันทรสมบูรณ์) รองกรรมการผู้จัดการ แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ ปากช่อง ต่อมาในเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 อนุทินได้หย่ากับศศิธร อีกสามปีต่อมาเขาเปิดตัวสุภานัน นิรามิษ (ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ธนนนท์") ซึ่งเป็นคู่รักคนปัจจุบัน เขามีความชื่นชอบส่วนตัวคือ สะสมพระเครื่อง

ในวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2567 เขาได้รับพระราชทานยศกองอาสารักษาดินแดนเป็นนายกองใหญ่ให้แก่อนุทิน ในฐานะเป็นผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดนจากการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 สถาบันพระบรมราชชนกได้มอบปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้แก่อนุทิน

บทบาททางการเมือง

พ.ศ. 2539 เข้าสู่วงการการเมืองโดยการรับตำแหน่ง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ประจวบ ไชยสาส์น) และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2547 และ พ.ศ. 2548) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พ.ศ. 2547) ต่อมาถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทยซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง พ.ศ. 2549

หลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิทางการเมืองในปี พ.ศ. 2555 เขาได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่ในขณะนั้นมีหัวหน้าพรรคคือชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดาที่ย้ายมาจากพรรคพลังประชาชนร่วมกับกลุ่มเพื่อนเนวิน และเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม อนุทินได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคต่อจากบิดา

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 เขาได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี

กระทรวงสาธารณสุข

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 เขาได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ[ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อต่อรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหลังการเลือกตั้ง อนุทินและพรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ และสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และดำรงตำแหน่งประธานสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขไปโดยปริยาย

ในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้สัมภาษณ์เชิงตำหนิบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่รักษาโควิด-19ซึ่งต่อมาเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงในวันเดียวกันอีกทั้งยังเคยมีมุมมองส่วนตัวต่อโรคดังกล่าวว่าเป็นเหมือนโรคหวัด ซึ่งต่อมาการระบาดของโควิด-19 กระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วทั้งประเทศ เขาได้ร่วมแถลงข่าวกับคณะแพทย์จนปรากฏภาพการร้องไห้ออกมา และเผยต่อสื่อว่า ขอให้เชื่อมั่นจะไม่ทำให้ผิดหวัง

กระทรวงมหาดไทย

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 เขาได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อต่อรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และหลังการเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยประกาศไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคแกนนำหรือพรรคร่วมใด ๆ ที่มีนโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112แต่ก็จะไม่จัดตั้งหรือสนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อยเช่นเดียวกันต่อมาเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยจึงเข้าร่วมรัฐบาล

จากนั้นเขาได้รับการแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกตำแหน่งหนึ่งจนทำให้ปลายปีผู้สื่อข่าวสายทำเนียบ ฯ ตั้งฉายาให้ว่ารัฐบาล "แกงส้มผักรวม" สื่อความหมายถึง การฉีก บันทึกความเข้าใจ (MOU) ล้มพรรคส้ม (ก้าวไกล) ในการเป็นรัฐบาล แล้วมารวมกับภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลแทน

ในวาระเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อนุทิน ได้กล่าวว่า "ผมเป็นคนทำงานวันนี้ สั่งงานวันนี้ ต้องเสร็จเมื่อวาน เพราะงั้นก็ขอให้ทุกคนได้มีความมั่นใจ"

ทำให้วลีดังกล่าวเป็นกระแสในสื่อสังคม วันต่อมาในการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว เขามอบหมายให้ ชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้คัดกรองบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งในส่วนท้องถิ่น 

การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถอดถอน "แพทองธาร ชินวัตร"  ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568 พรรคภูมิใจไทยได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคเพื่อไทย โดยจะเสนอชื่ออนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 และยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนที่จะลงมติให้โดยไม่ร่วมรัฐบาล

ซึ่งรัฐบาลชุดนี้จะต้องทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ให้สำเร็จและยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนหลังจากเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายและเรื่มต้นการบริหารรัฐกิจ

ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 กันยายน เพื่อลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี โดย "ไชยชนก ชิดชอบ" เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอชื่ออนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี และได้รับคะแนนเสียง 311 เสียง ส่งผลให้อนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทย