พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้รับการประสานงานจาก ทีมงานสืบสวนทุจริตด้านดิจิทัล ฝ่ายป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน ของธนาคารแห่งหนึ่งว่ามีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวขบวนการถอนเงินสดจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และจะมาทำรายการถอนเงินสดที่เคาน์เตอร์ธนาคาร ภายในห้างสรรพสินค้า ย่านพัทยาเหนือ จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์  รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.สุรเดช อิ่มใจ สว.สส.สภ.เมืองพัทยา พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สภ.เมืองพัทยา (ศปชก.สภ.เมืองพัทยา)  เข้าตรวจสอบ

 จากการเข้าตรวจสอบพบนางสาว กัลยา หรือ เบนซ์  (สงวนนามสกุล) อายุ 29  ปี และ นายคี อายุ 25 ปี ที่ทำหน้าที่คอยประกบนางสาวกัลยาขณะเดินเข้าธนาคารภายในห้างเพื่อไปถอนเงิน  หลังจากที่เข้าไปถอนเงินสดแล้ว จากนั้นทั้ง 2 คน เดินไปพร้อมกันมุ่งหน้าไปทางธนาคารอีกแห่ง ที่อยู่ภายในห้างเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนางสาวกัลยา ทราบว่าตนเองเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง สาขา วังจันทร์ มาถอนเงินออกจากบัญชี จำนวน 980,000 บาท แต่ถูกธนาคารแจ้งอายัดบัญชีไว้ทำให้เบิกถอนเงินไม่ได้  โดยมีนายคี  สัญชาติมาเลเซีย  สามารถพูดฟังภาษาไทยได้คอยมาประกบและรอรับเงินจากตน ซึ่งเคยถอนเงินสดจำนวน 1,150,000 บาท มาแล้ว 2 ครั้ง ในวันเดียวกัน โดยเงินที่ได้ จะถูกส่งต่อให้ นายหวาง อายุ 23 ปี ชาวจีน ต่อไป

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นางสาวกัลยา ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน  ร่วมกันเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใดโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย (อั้งยี่) กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และร่วมกันฟอกเงิน

ส่วน นายคี  แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน  เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อขายให้เช่า หรือให้ยืม บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย (อั้งยี่) กระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และร่วมกันฟอกเงิน ส่วนตัวนายหวาง อายุ 23  ปี สัญชาติจีน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าบินออกนอกประเทศไปแล้ว