“ผบ.ทอ.”เผยเครื่องบิน AT-6THเสริมเขี้ยวเล็บ ทอ. คุมชายแดน-ปราบยาเสพติด ร่วมภารกิจชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ เงียบ ประหยัด เผย ทอ. เล็ง จัดหาเครื่องบินทดแทนปลดประจำการ หนุน แนวคิด แม่ทัพภาค 2 บอกเครื่องบินไม่ได้มีไว้โชว์ แค่วันเด็ก ชี้ หากเหนือท้องฟ้า มีเครื่องบินของทอ.ไทย บินอยู่ ขอให้มั่นใจอุ่นใจแต่ถ้าไม่ใช่ อาจสูญเสีย
พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวถึงการบรรจุประจำการเครื่องบิน AT-6TH ในวันนี้ ว่า ถือว่าเป็นวันดีที่กองทัพอากาศได้ทำพิธีบรรจุประจำการเครื่องบิน AT-6TH จำนวน 8 ลำ ที่ซื้อจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในลักษณะคล้ายว่ามีข้อตกลงคุณธรรม ที่มีคณะกรรมการฯ ทำให้โครงการนี้เรารับประกันได้ว่า นอกจากจะมีประโยชน์ด้านความมั่นคงแล้ว ยังมีความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาและเป็นโครงการที่ตรวจสอบได้ ถือเป็นโครงการต้นแบบของกองทัพอากาศ และยังจะมีโครงการอื่นๆ อีกเกี่ยวกับข้อตกลงคุณธรรม
เมื่อถามว่าในช่วงการสู้รบไทย-กัมพูชา มีปัญหาในเรื่องของภารกิจหรือไม่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า เครื่องบินมีขีดความสามารถในการลาดตระเวน ถ่ายภาพ และส่งภาพมาให้กับภาคพื้นดินได้เห็นสภาวะและรับรู้ถึงสถานการณ์ในแบบเรียวไทม์ สถานการณ์ปัจจุบันซึ่งเป็นอีกขีดความสามารถหนึ่งในขีดความสามารถของเครื่องบิน AT-6TH
ส่วนนอกเหนือจาก AT-6TH และเครื่องบินขับไล่Gripen ที่จัดซื้อแล้ว ในอนาคตกองทัพอากาศจะซื้อเครื่องบินรุ่นใดบ้าง พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เราได้รับการอนุมัติให้ตัดซื้อGripen ที่เป็นเครื่องบินโจมตีขับไล่ทดแทน ซึ่งถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่และมีความสำคัญเพื่อทดแทนเครื่องบิน F-16 ฝูงบิน 102 กองบิน1 โคราช ซึ่งในอนาคตจะมีการปลดประจำการเครื่องบินฝูง 403 กองบิน 4 ซี่งจะต้องมีความจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนมาอีก 1 ฝูง ส่วนเครื่องบินแบบอื่นๆ อาจเป็นเครื่องบินอาร์ลฟ่าเจ็ท F-5 ฝูงบิน 231 กองบิน 13 หรือฝูงบิน 211 กองบิน 21 ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและมีขีดความสามารถที่สูง และที่สำคัญคือมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับกำลังพลกองทัพอากาศ และบริษัทอุตสาหกรรมการบินTAI ที่เป็นที่Security Partner ของกองทัพอากาศให้มีขีดความสามารถ พัฒนาต่อยอดไปได้ ส่วนฝูงบิน 231 กับ 211 ที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดอุดรธานี ทางกองทัพอากาศกำลังพิจารณาดูว่าเราจะจัดหาเครื่องบินแบบอากาศยานไร้คนขับมาทดแทน หรือ ทบทวนเรื่องสมุดปกขาว เพราะมองว่าภัยคุกคามในอนาคต หากมีอากาศยานไร้คนขับติดอาวุธก็มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เพราะสถานการณ์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าของที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพ จะทำให้เราสามารถตอบสนองภารกิจตอบโต้ทางภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพจริงๆ
“การที่กองทัพอากาศได้มีภารกิจช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้กองทัพอากาศได้ทบทวนแนวทางการปฏิบัติความเหมาะสม ความพร้อมที่ลงตัวที่สุด เราไม่สามารถใช้งบประมาณจำนวนมากทีละเยอะๆ ได้ ซึ่งเราต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด และที่สำคัญเรากำลังสร้างการร่วมมือระหว่างกองทัพไทยกับอุตสาหกรรมภายในประเทศอย่างยั่งยืน และปกติเป็นเรื่องของการพัฒนา เพราะถึงเวลานั้นเราต้องพึ่งพาตนเอง”
สำหรับการสรุปผลการป้องกันชายแดนไทย-กัมพูชาที่ผ่านมา ศักยภาพของกองทัพอากาศเป็นอย่างไรบ้างนั้น พลอากาศเอก พันธ์ภักดี ระบุว่า กองทัพอากาศทุกวันนี้. เรามีการฝึกซ้อมและมีความพร้อมทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งเชื่อมั่นในขีดความสามารถของผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน รวมถึงนักบินทุกคนมีความรับผิดชอบในหน้าที่และมีความพร้อมปฎิบัติภารกิจ 24 ชั่วโมง ซึ่งตนอาจไม่ต้องพูดว่าผลการปฏิบัติเป็นอย่างไร แต่เชื่อว่าหลายคนคงรับทราบว่าความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศ กองทัพบก ในการปฎิบัติภารกิจครั้งนี้ เชื่อว่ามีความสำเร็จอย่างสูงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเราสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี
เมื่อถามอีกว่า นอกจากปฎิบัติภารกิจในพื้นที่ภาคเหนือแล้ว AT-6TH มีขีดความสามารถนำไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาได้หรือไม่ พลอากาศเอก พันธ์ภักดี เผยว่า ในส่วนของขีดความสามารถของเครื่องบินถือเป็นคุณลักษณะที่ทางทหารทุกคนทราบดี ในเรื่องของระยะทาง เรื่องของความเร็ว เรื่องของความแม่นยำ ความทันสมัย ความอ่อนตัวความสามารถเรามีสูงมาก ซึ่งเป็นคุณลักษณะของกำลังทางอากาศ
ส่วนที่มีกระแสในโซเชียลว่า AT-6TH เป็นการมาเสริมภารกิจของเครื่องบินGripen และ F-16 ซึ่งอาจเป็นการใช้งบประมาณเยอะเกินไปนั้น พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า ภารกิจเราแยกอย่างชัดเจน โดย AT-6TH จะอยู่ในพื้นที่จำกัดเฉพาะภารกิจนั้น โดยเฉพาะการปราบปรามยาเสพติด เส้นทางลำเลียงยาเสพติด การถ่ายภัยพิบัติน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือไฟป่า ต่อคุณลักษณะเด่นของ AT-6TH คือ มีความประหยัด เงียบ หากเราจะไปดูการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้วเอาเครื่องใหญ่ๆ ไปก็ไม่คุ้มค่า อาจเกิดเสียงดัง ซึ่งต้องใช้จุดอ่อน จุดแข็งที่เรามีอยู่ให้คุ้มค่ากับภารกิจอย่างเหมาะสม
ส่วนมองอย่างไรจากการที่แม่ทัพภาคที่ 2 ที่เคยพูดว่าเครื่องบินไม่ได้ซื้อไม่ได้ซื้อมาเพื่อการโชว์วันเด็ก พลอากาศเอก พันธ์ภักดี กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับแม่ทัพภาคที่ 2 เพียงแต่เรามียุทโธปกรณ์
“สิ่งหนึ่งที่อยากทำให้เห็นคือ เราอยากให้ประชาชนเห็นศักยภาพขีดความสามารถ ว่าเราทำอะไรได้บ้าง สำคัญคือวันเด็กเราจะได้แสดงศักยภาพให้กับเด็กๆ และประชาชนได้เห็นว่าเหนือท้องฟ้า ของประเทศเรายังมีเครื่องบินที่ดูแลปกป้องอธิปไตยอยู่ ในยามเกิดภัยสงคราม เครื่องบินก็ยังมีขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้พูดไว้ว่าถ้าเกิดเสียงเครื่องบินที่อยู่บนท้องฟ้าเป็นเครื่องบินของเราขอให้อุ่นใจ มีความมั่นใจ สบายใจ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่ใช่เครื่องบินของเรา สิ่งนี้เราก็จะต้องระมัดระวัง อาจจะเกิดความสูญเสียในอนาคตได้” ผบ.ทอ. กล่าว