วันที่ 4 ก.ย. 2568 เวลา 16.00 น. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) แถลงชี้แจงถึงกระแสข่าว สส.ปชน.บางส่วน อยากฟรีโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เนื่องจากไม่อยากโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจ เป็นนายกฯคนที่ 32 โดยยืนยันว่า ไม่มีกระแสความแตกแยกในพรรค ตามที่แถลงเมื่อเช้า พรรคเพื่อไทยเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม แคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย ความไม่ชัดเจนเช้านี้ ที่ได้เรียกหาจากนายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ว่า กระบวนการยุบสภาฯ เดินหน้าหรือยุติอย่างไร ชัดเจนแล้วว่า นายภูมิธรรม ไม่ได้เดินหน้ายุบสภาฯแล้ว แต่เป็นการเดินหน้าโหวตนายกฯคนต่อไป ทั้งนี้ไม่คิดว่าจะทำอะไรให้เกิดความไขว้เขวแต่อย่างใด เมื่อเช้าแถลงไปแล้วว่า กระบวนการตัดสินใจของ ปชน.ได้สิ้นสุดตั้งแต่ตอนนี้ กก.บห.ได้แถลงข่าว และเซ็นข้อตกลงร่วม (MOA) กับพรรคภูมิใจไทยไปแล้ว

เมื่อถามถึงกระแสข่าว สส.ปชน.บางคนขอฟรีโหวตเลือกนายกฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องนี้ ตลอดทั้งวันที่ตนได้มีการประชุมร่วมกับ สส.ในพรรค ไม่มีการพูดถึงเรื่องฟรีโหวตแต่อย่างใด

เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ถ้าฟรีโหวตในวันโหวตเลือกนายกฯจริง หัวหน้าพรรค ปชน.กล่าวว่า เชื่อมั่นต่อเพื่อนร่วมพรรคทุกคนว่าจะปฏิบัติตามมติของพรรค ในส่วนของความอึดอัดใจ เชื่อว่าทุกคนมีข้อคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย เราผ่านกระบวนการถกเถียงแลกเปลี่ยนมาหมดแล้ว เชื่อว่าจะปฏิบัติตามมติพรรค ไม่มี สส.ปชน.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมติพรรคแต่อย่างใด รอดูว่าจะมีหรือไม่ แต่เชื่อมั่น ณ ตอนนี้ว่าไม่มี

เมื่อถามว่าการติดต่อสภาฯเพื่อเลื่อนโหวตนายกฯนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุย หรือตอนรายงานตัวการปฏิรูประบบงบประมาณเอง ได้นำเรียนประธานรัฐสภาโดยตรงว่า ไม่ได้ประสานขอเลื่อนแต่อย่างใด ระหว่างวันมีกระแสข่าว ปล่อยกันออกมาโดยตลอด และมีการต่อสายมาถึงตน จากเจ้าหน้าที่ของประธานสภาฯโดยตรงว่า ได้ประสานขอเลื่อนการโหวตจริงหรือไม่ ตนได้ยืนยันต่อท่านประธานฯ และท่านเองก็อยู่ในที่ประชุมด้วยว่า ไม่เคยประสานเลื่อนโหวตแต่อย่างใด

นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงกรณี ปชน.ต้องรับผิดชอบต่อหน้าตาของ ครม.อนุทิน หรือไม่ ว่า อยากยืนยันเรื่องเดิมว่า เราทำหน้าที่ฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นการโหวตที่เรามีมติให้กับนายอนุทินครั้งนี้ โหวตเพื่อเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ มีหน้าที่ในการยุบสภาฯ เปิดทางแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ครม.ที่จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจภายใต้นายอนุทินเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลที่ ปชน.ไม่ต้องแบกรับแต่อย่างใด เพราะเราทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้าน ตรวจสอบเต็มที่

เมื่อถามถึงข้อเสนอใหม่ของพรรคเพื่อไทย ผลักดันนายชัยเกษม และยุบสภาฯทันที สนใจหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการยื่นข้อเสนอพูดคุยอย่างเป็นทางการมาก่อนหน้านี้ ก่อนรับฟังความเห็นของพรรค ก่อนพรรคมีมติอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าตน และเพื่อน ๆ ในพรรคจะรับไว้พิจารณาใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการชั่งน้ำหนัก แต่เห็นได้ชัดเจนว่ากระบวนการที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ มีการให้ข่าวกลับไปกลับมาจากพรรคเพื่อไทยเอง และพวกเราประเมินได้ว่า จริง ๆ แล้ว ไม่มีความจริงจังหรือจริงใจบรรลุข้อตกลงกับเราแต่ต้น แต่ปล่อยข่าวเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากกว่า

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าไม่เชื่อใจพรรคเพื่อไทย ที่เสนอชื่อนายชัยเกษมใช่หรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า จนถึงวินาทีนี้ ภายหลัง ปชน.บรรลุข้อตกลงเรียบร้อย และมีการปล่อยข่าวลักษณะนี้อยู่ แสดงให้เห็นว่าเราเอง ไม่สามารถเชื่อคำพูดที่กลับไปกลับมาแบบนี้ได้

เมื่อถามถึงนักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยหลายคนเตือนอยากให้ ปชน.พิจารณาใหม่ เพราะการโหวตพรรคภูมิใจไทย เหมือนสนับสนุนกลุ่มทำลายกระบวนการนิติรัฐ นิติธรรม และทำนิติสงคราม นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรารับฟัง และทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน พร้อมพิสูจน์ตัวเองในกรอบเวลาต่อจากนี้ ผ่านการทำหน้าที่ทุกอย่างของเรา และอยากยืนยันทุกคน วันนี้สิ่งที่ตนและ ปชน.จำเป็นต้องทำคือหนักแน่นต่อการตัดสินใจของเรา เราไม่ได้เพิ่งมาคิดไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่มองเห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 2 เดือนที่แล้ว เราได้ประเมินสถานการณ์ ชั่งน้ำหนักทุกด้าน ไตร่ตรองรอบคอบ ก่อนออกมติพรรค เชื่อว่าเป็นทางออกที่ดีสุดให้กับประเทศจริง ๆ

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยทำนิติสงครามขึ้น มีการเรียกร้องให้ ชน.ต้องรับผิดชอบ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก่อนที่ตนและ ปชน.จะต้องรับผิดชอบอย่างไร ต้องดูที่การกระทำของพวกเราด้วย กรณีที่เราได้เรียกร้อง และให้ข้อคิดเห็นในตอนเช้าว่า เราไม่เห็นด้วยกับนิติสงคราม ไม่ว่าฟ้องร้อง มาตรา 157 หรือมาตรา 112 ที่ผ่านมา เรียนตามข้อเท็จจริงตน และ ปชน.ไม่มีอำนาจสั่งการใด ๆ แต่เรามีอำนาจฝ่ายค้านเสียงข้างมาก ใช้เสียงที่เรามีกำกับทิศทางรัฐบาลต่อจากนี้ เพื่อเปิดทางทำรัฐธรรมนูญใหม่

“ต้องดูต่อไปในอนาคต รัฐบาลเฉพาะกิจ ทำอะไรไม่ถูกต้อง เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างพวกเรา ตรวจสอบตรงไปตรงมา ทำเต็มที่ ไม่มีออมมือทั้งสิ้น เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นต้น” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หลายคนมองตอนแรกโหวตหนุนภูมิใจไทย แล้วไปค้านในอนาคตทำได้จริงหรือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่สังคมต้องมองแยกให้ออกคือ เรื่องการใช้เสียงในสภาฯ เพื่อเดินหน้าสู่ทางออกของประเทศ กับการร่วมรัฐบาล ยืนยันอีกครั้งว่า การโหวตนายอนุทิน ไม่ใช่ร่วมรัฐบาล แต่หาทางออกของประเทศ เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่

เมื่อถามว่าอดีตแกนนำพรรคก้าวไกล และ สส.บางคน เสนอว่าไม่อยากให้ ปชน.เป็นตัวประกอบภาพยนตร์ที่ทำสัญญากับปีศาจนั้น หัวหน้าพรรค ปชน. กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พวกเราต้องพิสูจน์ว่า หลังจากนี้อีก 4 เดือน หลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พรรค ปชน.จะใช้เสียง 140 กว่าเสียง กำกับทิศทางรัฐบาล นำไปสู่สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้มากน้อยแค่ไหน

“เชื่อว่าเราทำได้ ส่วนกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และอดีตแกนนำก้าวไกลคนอื่น ๆ เคยบอกว่าไม่ควรดีลกับปีศาจ คิดว่าสิ่งที่เราเคยบอกว่า ดีลปีศาจ ต้องดูว่า ดีลเพื่อผลประโยชน์ของใคร เพื่อผลประโยชน์ตัวเอง หรือเราใช้อำนาจที่เรามี ได้รับมอบจากประชาชน หาทางออกให้กับประเทศ ที่สำคัญมากกว่า เชื่อว่าองคาพยพของเราเข้าใจ”นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าไม่เสียดายใช่หรือไม่ที่ตัดสินใจดีลกับพรรคภูมิใจไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เสียดาย และไม่คิดที่จะไปทบทวนในสิ่งที่เกิดขึ้นแน่นอน เดินหน้าหาทางออกให้กับประเทศ คิดว่าเป็นเรื่องประธานสภาฯ บรรจุวาระแล้วว่าจะเดินหน้าต่อ หรือโหวตนายกฯคนใหม่อย่างไรบ้าง ส่วนถ้าอนาคตนายอนุทินไม่ยุบสภาฯนั้น เราประเมินไว้หมดแล้ว และเราจะประเมินทุกวันต่อจากนี้ หลังโหวตเลือกนายกฯไปแล้ว ถ้าเราเริ่มเห็นแล้วว่า นายอนุทินไม่พยายามปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกัน เราพร้อมใช้เสียงในสภาฯ ยื่นมติไม่ไว้วางใจทันที

เมื่อถามว่า หากกำหนด 4 เดือน แต่เกิดสถานการณ์รัฐบาลต้องกำกับดูแลประเทศต่อ ต้องคุยกันอีกรอบหรือไม่ นายณัฐพงษ์ เชื่อว่า ตอนนี้กรอบสำคัญของเราคือตามข้อตกลงที่ได้บอกว่า สถานการณ์ในอนาคตไม่ว่าเรื่องใหญ่ ไทย-กัมพูชา หรือภาษีทรัมป์ เราให้ประชาชนตัดสิน เราจำเป็นต้องมีรัฐบาลชุดใหม่แก้ไขในส่วนนี้

เมื่อถามถึงกรณีข้อครหาบางพรรคในรัฐบาลใหม่จะเข้าไปแทรกแซงองค์กรอิสระต่าง ๆ เพราะเงื่อนไข 5 ข้อของ ปชน.ไม่มีระบุส่วนนี้จะทำอย่างไร หัวหน้าพรรค ปชน.ขอยืนยันผ่านการแถลงครั้งนี้อีกหนึ่งครั้งว่า ถ้าหากว่ามีการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะสะสางคดีของตนและพวกพ้อง ปชน.ไม่มีทางยอมรับได้ พร้อมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที

“ทุก ๆ อย่างอาจไม่ได้ตอบลงรายละเอียดมากนัก ตอบบนหลักการที่ทุกคนเข้าใจได้ ดูเรื่องการกระทำที่วิญญูชนเห็น ถ้าเชื่อว่านายอนุทิน ในฐานะนายกฯ มีความเป็นไปได้มากสุดคนต่อไป ใช้อำนาจยุ่งเกี่ยว เป็นอำนาจของ ปชน.ล้มอำนาจที่ไม่มีความชอบธรรม” นายณัฐพงษ์ กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าเพื่อไทยยืดเยื้อ หรือล้มการโหวตนายกฯ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า การเดินเกมในสภา เป็นเรื่องปกติ รวมถึงการโหวตนายกฯ แต่อยากให้ทุกคนเรียกร้อง ณ ตอนนี้คือเดินหน้าเปิดประตูสู่ทางออกของประเทศ เพราะความชัดเจนของ ปชน. คือพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เดินหน้ายุบสภาฯก่อน ต่อมาเสนอชื่อนายชัยเกษมมาชิงเก้าอี้นายกฯ มองว่าพรรคเพื่อไทยตีรวน สุดท้ายถ้านายอนุทินได้เป็นนายกฯ แล้วถูกคดีจริยธรรมสอยก่อนยุบสภาฯ มองถึงนายกฯคนที่ 4 หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น แต่การโดนคดีจริยธรรม ปชน.บอกตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยกับการใช้กระบวนการแบบนี้