วันที่ 4 กันยายน 2568 ดร.วราภรณ์ เต็มแก้ว รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร สถาบันการบินพลเรือน เป็นประธานเปิดโครงการงานประชุมวิชาการด้านการบินระดับชาติ ครั้งที่ 5 (5th Aviation National Symposium) โดยมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแลกเปลี่ยนและนำเสนอผลงานวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน รวมทั้งสิ้น 15 ผลงาน จากหน่วยงานและสถาบันการศึกษาชั้นนำ พร้อมได้รับการสนับสนุนจาก 11 หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมจัดงานในครั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา
ดร.วราภรณ์ เต็มแก้ว รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) เปิดเผยว่า สบพ.ในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจภายใต้กระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นสถาบันแรกของประเทศไทยที่ผลิตบุคลากรด้านวิชาชีพการบิน มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศด้านการบินด้วยมาตรฐานระดับสากล เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการบินของประเทศและภูมิภาคอาเซียน โดยตระหนักถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญในโลก (Mega Trend) ที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี กฎหมาย และสิ่งแวดล้อม
“การวิจัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการนำความรู้ทางวิชาการมาใช้ค้นหาความจริงใหม่อย่างมีระบบ ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ช่วยแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง ซึ่งสถาบันการบินพลเรือนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการบูรณาการองค์ความรู้วิชาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทยให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน” ดร.วราภรณ์ กล่าว
นอกจากนี้ ภายใต้นโยบายของกระทรวงคมนาคมที่มุ่งผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตและซ่อมบำรุงอากาศยานของภูมิภาคอาเซียน อาชีพในอุตสาหกรรมการบินจึงต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคสูง พร้อมด้วยประสบการณ์ที่เพียงพอ สถาบันการศึกษาจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากำลังคนให้มีความพร้อมตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับสูง โดยผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาความรู้ที่เป็นระบบและมีคุณภาพ เพื่อสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมการบินให้มีศักยภาพสูงสุด
โครงการประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้อาจารย์ นักศึกษา และนักวิชาการนำเสนอผลงานด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการอุตสาหกรรมการบิน พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สายการบิน และภาคบริการท่องเที่ยว เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมการบินชั้นนำของภูมิภาค
สำหรับปีนี้มีผลงานวิชาการจำนวน 15 ผลงาน แบ่งเป็นการนำเสนอภาคบรรยาย 12 ผลงาน และการนำเสนอด้วยโปสเตอร์อีก 3 ผลงาน ครอบคลุม 8 สาขาวิชา ได้แก่ ธุรกิจการบิน, การท่องเที่ยว, การศึกษาและการเรียนการสอนด้านการบิน, ดิจิทัลและเทคโนโลยี, สังคมและสิ่งแวดล้อม, วิศวกรรมการบิน, โลจิสติกส์การบิน และสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงคมนาคม, สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.), สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี, กรมท่าอากาศยาน, สมาคมตัวแทนขนส่งสินค้าทางอากาศไทย, บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
ทั้งนี้ เพื่อมุ่งส่งเสริมการเผยแพร่บทความและผลงานวิชาการของนักศึกษา พนักงาน และบุคคลทั่วไปสู่สาธารณชน เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ข่าวสารงานวิจัยระหว่างนักศึกษา หน่วยงานรัฐ เอกชน และเครือข่ายพันธมิตรทางด้านการบินและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพิ่มศักยภาพในการจัดการเรียนการสอน พัฒนาคุณภาพหลักสูตร และยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ตอบโจทย์ตลาดแรงงานอุตสาหกรรมการบิน การจัดประชุมวิชาการครั้งนี้ สถาบันการบินพลเรือนมุ่งหวังว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนางานวิจัยด้านการบินของประเทศ ให้เกิดความเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต