วันที่ 4 ก.ย.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาฯ คนที่สอง เป็นประธานการประชุม ในช่วงวาระพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566 และรายงานการประเมินผลการใช้จ่ายเงินและทรัพย์สิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)  โดยนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า อยากให้ตัวแทน ป.ป.ช.ชี้แจงถึงคดีปกครอง 23 คดีที่ป.ป.ช.ถูกฟ้อง ว่าเป็นคดีเกี่ยวกับอะไร และหวังผลในทางคดีอย่างไรบ้าง เพราะถ้าแพ้คดีเราก็ต้องหาเงินซึ่งเป็นภาษีประชาชนไปชดใช้ให้แก่ผู้ฟ้อง ซึ่งหมายถึงการทำงานของป.ป.ช.ไม่รอบครอบรัดกุมไม่เป็นไปตามกฎหมาย

“ผมไม่อยากอภิปรายป.ป.ช. อย่างน้อยเรื่องบัญชีทรัพย์ของพวกผมก็คาคออยู่ และไม่รู้จะพ้นตำแหน่งเมื่อไหร่ อาจจะพ้นพรุ่งนี้หรือเปล่าไม่รู้ การลงทุนเป็นนายกรัฐมนตรี ป.ป.ช.เข้าไปยุ่ง หรือปราบปรามการทุจริตหรือไม่ เพราะได้ยินข่าวหึ่งถึง 1.5 พันล้าน ถึง 2 พันล้านบาท อย่างนี้เป็นต้น”นายอดิศร กล่าว

นายอดิศร กล่าวว่า คดีแพ่งที่อยู่ในการพิจารณาของศาล 8 คดี และคดีปกครอง 23 คดีอยู่ในระกว่างอุทธรณ์ 1 คดีใครอุทธรณ์ ใครแพ้คดี คดีมีผลอย่างไรเราจะได้ประเมินการทำงานของ ป.ป.ช.ว่าคนที่เป็น ป.ป.ช.ซึ่งมาจากการคัดเลือกของ สว.สีน้ำเงิน จะทำให้ป.ป.ช.เป็นสีน้ำเงินด้วยหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าสะพึงกลัว คดีอย่างนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งผู้ร้องและผู้ถูกต้อง ป.ป.ช.ถึงจะขาวบริสุทธิ์ เพราะเมื่อเห็นการถูกฟ้องของท่านแล้วน่าตกใจ ป.ป.ช.เป็นองค์กรอิสระที่บางทีอิสระจนเป็นดาวฤกษ์ ไม่มีใครใหญ่กว่าป.ป.ช.แล้ว ซึ่งประชาชนมองแบบนี้ แต่ป.ป.ช.กลับถูกฟ้องทั้งคดีปกครอง คดีแพ่ง ซึ่งคดีอาญามีหรือไม่ก็ไม่ทราบ จึงขอให้ชี้แจงด้วย