วันที่ 4 ก.ย.68 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ระบุว่า...

#ทูลเกล้า #ยุบสภา

#ผิดกฎหมาย #ม157

นายภูมิธรรม ทูลเกล้ายุบสภาโดยไม่มีอำนาจ มีการทักท้วงจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังดื้อดึง จึงต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เบื้องต้นคงต้องมีความผิดในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

และความผิดตามกฎหมายพรบปปปช ส่วนผิดกฎหมายอื่นตรวจสอบเพิ่มเติมคงมีตามาอีกแน่นอนครับ

หลังจากที่การข่าวยืนยันตรงกันว่า สำนักองคมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลั่นกรองหนังสือและถวายความเห็นประกอบกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย ได้ส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกา กลับมาให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้ว

โดยหนังสือนำส่งกลับคืนมาระบุว่า การกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกา

ยุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา

เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้งว่า กระทำได้หรือไม่

ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า

รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ได้

จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยได้

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รายงานให้นายภูมิธรรม ในฐานะผู้กราบบังคมทูล

ทราบแล้ว

จึงมีความเห็นทางกฎหมายว่า ผู้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบคือ

นายภูมิธรรม เวชชยชัย และนายพรหมมินทร์ เลิศสุริยะเดช เลขาธิการนายก ฯ

โดยน่าจะมีความผิดตามตามกฎหมายได้แก่

ประมวลกฎหมายอาญา

“มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ซึ่งการกระทำผิดนี้จะมีความเกี่ยวพันกับ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะในกรณีที่ตรวจสอบได้ว่ามีเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ด้วย

ด้วยเหตุเพราะเลขากฤษฏีกายืนยันแจ้งให้ทราบมาตลอดแล้วว่าทำไม่ได้

อีกทั้งตามระเบียบห้ามนำเสนอหากยังมีปัญหาการขัดแย้งกันอยู่

ผู้กระทำจึงรูู้อยู่แล้วว่าทำไม่ได้แต่ยังขืนทำการทูลเกล้าต่อไป

อันถือเป็นการรบกวนบื้องพระยุคลบาท

สมควรได้รับการลงโทษอย่างหนักเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปครับ

ดร.สมชาย แสวงการ

อดีตสมาชิกวุฒิสภา

4 กย 2568