เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2568 นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า
สองเรื่องใหญ่ที่น่ากังวลใจว่าจะจางหายไปในสายลม
ภายใต้รัฐบาล “น้ำเงิน”
นพ.เหวง โตจิราการ
ในขณะนี้ค่อนข้างแน่นอนว่ากลุ่ม “น้ำเงิน”ได้มาเป็นรัฐบาล
จากการอุ้มขึ้นนั่งเก้าอี้โดยกลุ่ม “ส้ม”
ผมค่อนข้างเชื่อว่า “ความปรารถนาดีที่ส้มต้องการ”
ในเรื่องทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ได้สสร.มายกร่างและ
จะอยู่ในตำแหน่งเพียง4เดือนนั้นไม่เกิดขึ้นแน่
และที่ “ส้ม” ประกาศว่าในฐานะฝ่ายค้านก็จะโค่นน้ำเงินลงไปนั้น
ผมไม่ค่อนมั่นใจว่าจะทำได้
เพราะความสามารถทางการเมืองของ “น้ำเงิน”นั้น
กล่าวได้ว่า “สุดลึกล้ำยากหยั่งถึง”
สิ่งที่”ส้ม”ต้องแบกรับอย่างหนักหนาสาหัสก็คือ
เรื่องใหญ่ที่ทำความเสียหายให้แก่บ้านเมืองอย่างน้อยสองเรื่อง
ที่ผู้คนจะรับไม่ได้เลยคือ
1.คดีฮั้วสว.
เพราะข้อมูลข้อเท็จจริงที่ปรากฏมายาวนาน
และคดีความก็คืบหน้าไปมาก
ทำให้สาธารณชนโน้มเอียงเกิดความเชื่อไปแล้วว่า
การเลือกตั้งสว.ครั้งสุดท้ายนี้ไม่สะอาดบริสุทธ์
และอยู่ภายใต้เงาของ “น้ำเงิน”
2.กรณีที่ดินการรถไฟเขากระโดงจำนวนกว่าห้าพันไร่
ที่อยู่ในสถานะเข้าด้ายเข้าเข็ม
กำลังจะยุติให้เป็นไปตามกฏหมาย
และนำผู้ที่ละเมิดกฏหมายมาลงโทษ
เมื่อดูลีลาการจัดตั้งผู้มาดำรงตำแหน่งต่างๆของ “รัฐบาลสีน้ำเงิน”แล้ว
ทำให้อดกังวลใจล่วงหน้าไม่ได้ว่า
ทั้งสองเรื่องจะค่อยๆจางหายไปกับสายลม
และอาจจะกลายเป็นบูมเมอแรง
กลับไปเล่นงานผู้ที่มีความจริงใจต่อระบอบประชาธิปไตย
และต่อความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายบ้านเมือง
หากทั้งสองเรื่องเลื่อนลอยจางหายไปในสายลม
หรือกลับทิศไปในทางที่สร้างความเสียหายให้กับระบอบประชาธิปไตย
และความศักดิ์สิทธิ์ของกฏหมายแล้ว
ผู้ที่จะต้องแบกรับความรับผิดชอบอย่างหนักหนาสาหัสต่อประเทศและประชาชนทั้งประเทศย่อมหนีไม่พ้น “ส้ม”แน่นอน
เพราะผู้คนจะชี้นิ้วไปยัง “ส้ม”แล้วบอกว่า
เป็นเพราะ “ส้ม”ที่อุ้มเอา “น้ำเงิน” ขึ้นมาเป็นรัฐบาลนี่เอง
ที่ทำให้สองเรื่องที่สำคัญยิ่งต่อบ้านเมืองในขณะนี้
เปลี่ยนทิศกลับทางไปอย่างสิ้นเชิง
“ส้ม”ต้องพิสูจน์ต่อประชาชนทั้งประเทศให้ได้ว่า
การจางหายไปในสายลมของทั้งสองเรื่องนี้ต้องไม่เกิดขึ้น
นอกเหนือไปจากเงื่อนไขห้าข้อที่ได้ลงนามกันไป
ที่ต้องเป็นไปตามนั้น
ไม่เช่นนั้น จากที่เคยเป็นผู้ปรารถนาดีต่อประเทศ
อาจจะกลับกลายไปเป็น
จำเลยของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไป
จากเจตนารมณ์อันดีงามต่อบ้านเมืองของ “ส้ม”
จะกลับกลายไปเป็น “การทำคุณบูชาโทษ”ไป
3กันยายน2568