วันที่ 3 กันยายน 2568 ณ อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 (ดินแดง) นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ได้เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณางบประมาณฯ โดยมีตัวแทนคณะอนุกรรมการทั้ง 5 คณะ ได้นำเสนอข้อสังเกตและประเด็นที่น่าสนใจเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ด้านสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว โดย นายธนวัฒน์ เชิดชูกิจกุล ส.ก.เขตประเวศ ได้เสนอให้มีการกำหนดมาตรฐานราคากลางของวัสดุและค่าแรงในงานก่อสร้างประเภทเดียวกันให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน พร้อมเรียกร้องให้ปรับปรุงห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ให้ทันสมัยเพื่อดึงดูดประชาชน และเน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการสืบราคาครุภัณฑ์ โดยต้องสืบราคาจากผู้ประกอบการที่มีที่ตั้งชัดเจนและมีใบเสนอราคาที่แตกต่างกันอย่างแท้จริง
ขณะที่สำนักการโยธา ซึ่งมี นายสารัช ม่วงศิริ ส.ก.เขตบางขุนเทียน เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนงานก่อสร้างและซ่อมแซมถนน-ทางเท้าแบบบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การประปา การไฟฟ้า เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและป้องกันการขุดซ้ำซ้อน นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงมาตรการความปลอดภัยในพื้นที่ก่อสร้าง เช่น การติดป้ายเตือน สัญญาณไฟ และไฟฟ้าส่องสว่างให้เพียงพอ รวมถึงการออกแบบตะแกรงรับน้ำและฝาท่อระบายน้ำให้แข็งแรงทนทานและระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนของสำนักการระบายน้ำ โดย นายสราวุธ อนันต์ชล ส.ก.เขตพระโขนง ได้เสนอข้อสังเกตหลายประการ เช่น การจัดหาเรือไฟเบอร์กลาสควรคำนึงถึงความคุ้มค่าและความทนทาน หรือพิจารณาวัสดุรีไซเคิล การจัดซื้อรถบรรทุกควรเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานยูโรล่าสุดเพื่อลดมลพิษ และโครงการต่างๆ ควรมีสัญญาประกันบุคคลที่สามเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนหากเกิดปัญหา อีกทั้งยังตั้งข้อสังเกตถึงโครงการก่อสร้างระบบรวบรวมน้ำเสียที่อาจกระทบต่อการสัญจรทางเรือในคลอง และเรียกร้องให้ทุกโครงการต้องผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน
ทางด้านสำนักการศึกษา ซึ่งรายงานโดย นางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี ส.ก.เขตสายไหม ได้เสนอให้พิจารณาความจำเป็นในการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องเสียงให้เหมาะสมกับขนาดห้อง และของเล่นเด็กต้องปลอดภัยและสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอที่น่าสนใจคือการพิจารณาเปลี่ยนอาคารเรียนในโรงเรียนที่มีนักเรียนน้อยเป็นบ้านพักครูเพื่อลดภาระค่าครองชีพ แก้ปัญหาครูย้ายออก พร้อมทั้งเสนอให้ปรับปรุงหลังคาอาคารเรียนเพื่อรองรับการติดตั้ง Solar Roof ลดค่าไฟฟ้า และเรียกร้องให้เชื่อมโยงข้อมูลของสำนักการศึกษาเข้ากับ Open Data เพื่อความโปร่งใส
สำหรับสำนักสิ่งแวดล้อม ซึ่งรายงานโดย นางสาวภัทราภรณ์ เก่งรุ่งเรืองชัย ส.ก.เขตบางซื่อ มีข้อสังเกตมากที่สุดถึง 28 ข้อ ประเด็นสำคัญคือการตั้งคำถามถึงการสืบราคาครุภัณฑ์ที่อาจไม่โปร่งใส การกำหนดคุณลักษณะถังขยะที่อาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคารายน้อยราย การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบัญชีนวัตกรรมที่มีราคาสูงกว่าท้องตลาด และค่าจ้างเหมาเอกชนดูแลระบบสารสนเทศที่เกณฑ์การพิจารณาอาจทำให้ได้ผู้รับจ้างรายเดิม นอกจากนี้ยังเสนอให้เปลี่ยนยานพาหนะเป็นระบบไฟฟ้าเพื่อลดมลพิษ และทบทวนความถี่ของโครงการจ้างรถกวาดดูดฝุ่นบนถนนสายหลัก เพื่อลดปัญหาการจราจร
สุดท้ายคือสำนักการจราจรและขนส่ง และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดย นายอนุรักษ์ เลิศวัฒนาไพบูลย์ ส.ก.เขตวังทองหลาง ได้ตั้งข้อสังเกตถึงระบบควบคุมสัญญาณไฟจราจรแบบ Adaptive ที่ยังไม่เห็นความคุ้มค่าที่ชัดเจน และการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ที่ใบเสนอราคามาจาก 2 บริษัทที่ตั้งอยู่ในซอยเดียวกันซึ่งอาจส่อถึงความไม่โปร่งใส ขณะเดียวกันได้เน้นย้ำว่าชุดผจญเพลิงของเจ้าหน้าที่ต้องได้รับมาตรฐานสากล NFPA ทุกชุด ไม่ใช่การสุ่มตรวจ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ คณะกรรมการวิสามัญฯ ยังได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับปัญหาโรงกำจัดขยะบางแห่งที่รับจ้างจาก กทม. แต่ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ต่อเนื่อง สร้างผลกระทบต่อประชาชน โดยเสนอให้ปรับปรุงสัญญาและเพิ่มค่าปรับให้สูงขึ้น พร้อมทั้งเน้นย้ำให้สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเร่งจัดซื้อโดรนดับเพลิงเพื่อใช้ระงับเหตุเพลิงไหม้ในอาคารสูงโดยเร็วที่สุด