ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพประชุม CMGF ระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 22 ณ จังหวัดตรัง ผลักดันความร่วมมือ IMT-GT สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน เตรียมพร้อมเปิดเส้นทางบิน หรือ Direct Flight ระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
วันที่ 3 ก.ย.68 ประเทศไทยในฐานะสมาชิกความร่วมมือแผนงาน IMT-GT (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMT-GT)) ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับมุขมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งที่ 22 (The Chief Ministers and Governors Forum 22ND ) ณ โรงแรมเรือรัษฎา จังหวัดตรัง โดยมี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ทำหน้าที่หัวหน้าคณะฝ่ายไทย นำคณะผู้แทนจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วมการประชุมร่วมกับประเทศสมาชิกอินโดนีเซียและมาเลเซีย เพื่อหารือและขับเคลื่อนความร่วมมือในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ IMT-GT
นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมมีการรายงานใน 2 ส่วนหลัก คือ การรายงานความคืบหน้าแผนงานโครงการที่มีศักยภาพของประเทศไทยที่ต้องการขับเคลื่อนต่อภายใต้แผนงาน IMT-GT และสามารถเชื่อมโยงกับประเทศสมาชิก IMT-GT จำนวน 25 โครงการ โดยเป็นโครงการที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาพื้นที่ เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว และเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
สำหรับจังหวัดตรังมีโครงการที่สำคัญ คือ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานตรัง ที่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากประเทศสมาชิกในการเปิดเส้นทางบิน หรือ Direct Flight ระหว่างประเทศร่วมกัน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
"การรายงานโครงการใหม่ ที่ผ่านมติเห็นชอบจากเวทีการระดมความเห็นจาก 14 จังหวัดภาคใต้ในฐานะประเทศสมาชิก และประชุมมีมติเห็นชอบและสรุปร่วมกันว่ามีโครงการเสนอใหม่ จำนวน 19 โครงการ ซึ่งโครงการเหล่านี้ก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาและขับเคลื่อนหลากหลายมิติ อาทิ ด้านโครงสร้างพื้นฐาน การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการค้าการลงทุน ฯลฯ" นายทรงกลด กล่าว
นายทรงกลด กล่าวต่อไปว่า สำหรับจังหวัดตรังมีโครงการที่สำคัญ จำนวน 3 โครงการ คือ 1) โครงการมาริน่าชุมชนกันตัง จังหวัดตรัง ที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่ง 2) โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่าตรัง ที่จะช่วยส่งเสริมและโปรโมทการท่องเที่ยว และ 3) โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ ฟื้นฟู พะยูน และสัตว์ทะเลหายาก ที่จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสถานที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก แผนงาน IMT-GT
และท้ายสุด คือ ข้อเสนอขอความร่วมมือกับประเทศสมาชิก แผนงาน IMT-GT ได้แก่ ประเด็นทำแผนพัฒนายุทธศาสตร์ตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ ทั้ง 6 แนวระเบียง โดยอาจจะนำร่องศึกษาแนวระเบียงเศรษฐกิจที่ 1 ก่อน การจัดทำเส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงทางด้าน วัฒนธรรมชุมชนในพื้นที่ 3 ประเทศ การเสนอให้พิจารณาการจัดสรรงบประมาณเฉพาะพื้นที่ (Targeted Budget Allocation) สำหรับโครงการที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาค โดยเน้นโครงการที่เชื่อมโยงและสร้างประโยชน์ร่วมกันระหว่าง 3 ประเทศสมาชิกของ IMT-GT และจังหวัดตรังมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ปัจจุบันสนามบินตรังได้ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่เสร็จแล้ว แต่ยังขาดเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ จึงเสนอให้ส่งเสริมการเปิด Direct Flight จากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย หรือตลาดระดับภูมิภาค เช่น จีน สิงคโปร์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค
ทั้งนี้ ในวันที่ 4 กันยายน 68 จะมีการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 31 IMT-GT และการเยี่ยมชมบูธนิทรรศการของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม รวมถึงวิสาหกิจชุมชนในพื้นที่จังหวัดตรัง เช่น วิสาหกิจชุมชนนาหมื่นศรี กลุ่มผ้ามัดย้อมอีโคพริ้นส์ วังมรกตบาติก โต๊ะเมืองบาติก เป็นต้น นอกจากการประชุมแล้ว คณะผู้เข้าร่วมประชุมจะได้ลงพื้นที่เพื่อศึกษาดูงาน ณ วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง อำเภอกันตัง และ วิสาหกิจชุมชนนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง อีกด้วย
โดยจังหวัดตรังได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มรูปแบบสำหรับการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ซึ่งไม่เพียงเป็นการยกระดับบทบาทของจังหวัดบนเวทีนานาชาติ แต่ยังเปิดโอกาสในการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น การท่องเที่ยว และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะการดึงดูดความสนใจจากพันธมิตรและโครงการสำคัญที่จะเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดตรังให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสีเขียวและเมืองท่องเที่ยวคุณภาพ
"สำหรับการประชุม IMT-GT ครั้งที่ 31 นี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จังหวัดตรังจะได้แสดงศักยภาพด้านการจัดการประชุมระดับนานาชาติ พร้อมทั้งเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนความร่วมมือและแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ จังหวัดตรังยืนยันความพร้อมและความมุ่งมั่นในการจัดการประชุมครั้งนี้อย่างดีที่สุด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสากล และสร้างประโยชน์ต่อประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง"นายทรงกลด กล่าวในที่สุด