เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกษตรกรจำนวนมากต่างพากันเดินทางไปที่ตู้ ATM ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ใกล้บ้าน เพื่อเช็กเงินช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวนาปี–นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท ตามที่รัฐบาลประกาศว่าจะเริ่มโอนเข้าบัญชีวันนี้

บรรยากาศพบว่า บางคนได้รับเงินแล้วต่างแสดงความดีใจ ขณะที่บางรายยังไม่พบเงินเข้าบัญชี ทำให้ต้องผิดหวังและกลับบ้านมือเปล่า

นายชาตรี ชาติจอหอ อายุ 53 ปี ชาวบ้านตำบลบ้านยาง อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เล่าว่า ตนเช่าที่นาทำกินจำนวน 6 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือ 6,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบแล้วยังไม่มีเงินเข้าบัญชี จึงกังวลว่าจะนำเงินจากไหนไปเตรียมจ้างรถเกี่ยวข้าว พร้อมฝากรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหาค่าปุ๋ยที่มีราคาแพง และอยากให้มีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างยั่งยืนมากกว่านี้ ส่วนประเด็นการเมืองหากมีการยุบสภา ตนเห็นว่า “ก็ดี” เพราะจะได้เดินหน้าต่อ

ด้านนางบุญเลี้ยง โกติรัมย์ อายุ 70 ปี ชาวตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว 10,000 บาท จากการทำนา 10 ไร่ แม้จำนวนเงินที่ได้ในปัจจุบันจะน้อยกว่าสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เคยให้ไร่ละ 2,000 บาท แต่ก็ยังรู้สึกดีใจที่ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือบ้าง พร้อมย้ำว่าตนไม่ได้สนใจการเมืองมากนัก เพียงแต่อยากได้รัฐบาลที่มีผู้นำเป็นคนดี ซื่อสัตย์ และหันมาใส่ใจประชาชนจริง ๆ มากกว่าการถกเถียงทางการเมืองที่ไม่ก่อประโยชน์