หลุมหลบภัยไม่เพียงพอ ทำเพิ่ม 4 ร้อยกว่าแห่ง 4 อำเภอติดชายแดน งบฯ 101 ล้านบาท เพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจมีหลุมหลบภัยใกล้ตัวหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวก็ได้มีการอพยพเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง ออกจากพื้นที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วตามวัด
วันที่ 3 ก.ย.68 จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชาวแดน ด้านจังหวัดสุรินทร์ ส่งผลต้องอพยพชาวบ้านตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มาอยู่ยังศูนย์พักพิงชั่วคราวที่รัฐจัดไว้ให้หลายแห่งเพื่อความปลอดภัย ช่วงระหว่างวันที่ 24 ก.ค.68 ถึง 9 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ในพื้นที่ชายแดนก็ยังคงตึงเครียดอยู่ตลอดเวลาไม่รู้ว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้นอีกวันไหน สถานการณ์ 50/50 คาดหวังอะไรไม่ได้ ถึงแม้จะมีการประกาศหยุดยิงแล้วก็ตาม ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวก็ได้มีการอพยพเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้ป่วยติดเตียง ออกจากพื้นที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้วตามวัด เช่นที่วัดเทพสุรินทร์และวัดศรีรัตนาราม อำเภอเมืองจังหวัดสุรินทร์
ส่วนที่อยู่ในพื้นที่บางครัวเรือนถึงขนาดต้องลงทุนทำหลุมหลบภัยเองไว้ข้างบ้าน เผื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา จะได้มีที่หลบภัยใกล้ตัวเพราะไม่ไว้ใจเขมร รวมถึงหลุมหลบภัยแต่ละหมู่บ้านยังมีน้อยไม่เพียงพอ ซึ่งหลุมหลบภัยที่มีไม่เพียงพอดังกล่าว ทางจังหวัดสุรินทร์ จึงได้ทำแผนเร่งด่วนเสนอของบฯกลางสร้างหลุมหลบภัยให้ชาวบ้านที่อยู่ติดชายแดน 4 อำเภอ จำนวน 4 ร้อยกว่าแห่ง งบประมาณ 101 ล้านบาท เพื่อให้เพียงพอกับชาวบ้านหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินในอนาคต
นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า บังเกอร์หรือหลุมหลบภัยที่ขอไปจำนวน 400 กว่าแห่งแต่ยังไม่เห็นตัวที่อนุมัติ แต่คาดการณ์ว่าน่าจะได้ใกล้เคียงกับที่ขอไปอย่างละ 20 ถึง 30 ล้านบาทของแต่ละอำเภอ มีอำเภอบัวเชดน่าจะได้เยอะที่สุดเพราะว่าอ.บัวเชด สถานการณ์เมื่อปี 54 ยังไม่รุนแรงเลยยังสร้างไม่เยอะคราวนี้ก็เลยขอไปเยอะ ก็ใกล้เคียงกันแต่ละอำเภอ ตัวเลขน่าจะประมาณ 101 ล้านบาท 4 อำเภอ มีอำเภอบัวเชด อำเภอสังขะ อำเภอกาบเชิงและอำเภอพนมดงรัก เฉลี่ย 20-30 ล้านบาทประมาณนี้ มีอำเภอปราสาทที่ไม่ได้ขอไป เพราะเดิมไม่ใช่พื้นที่ชายแดนจะไม่ใช่พื้นที่กระสุนตก ทีนี้กำลังคิดอยู่ว่าเรายังมีเงิน 100 ล้านบาทยังเหลืออยู่ อาจจะขอนำเงิน 100 ล้านบาทมาสร้าง และถ้าหากจะเอามาใช้ต้องยกเว้นระเบียบ คือเงินตัวนี้เอาสร้างไม่ได้แต่เอามาซ่อมได้ก็อาจจะขอยกเว้นระเบียบ ถ้าจะของบฯกลางเหมือน 4 อำเภอ คือตอนนี้เป็น ครม.รักษาการก็น่าจะอนุมัติแผนงานโครงการใหม่ๆไม่ได้ แต่ยกเว้นระเบียบของเงิน 100 ล้านบาท เป็นอำนาจของปลัดกระทรวงการคลังไม่ถึงระดับรัฐมนตรีก็น่าจะง่ายอยู่ เพื่อที่เอามาดูแลอำเภอปราสาท ซึ่งของชาวบ้านจะใช้คำว่าหลุมหลบภัย ของทหารจะใช้คำว่าบังเกอร์ ในส่วนที่สร้างใหม่ที่ รพ.พนมดงรัก จะเป็นของภาคเอกชนซึ่งไม่ทราบว่ามีใครบ้าง แต่ทำได้ดีสามารถรับคนได้เป็นร้อยๆคนได้