วันที่ 3 ก.ย.2568 เวลา 15.30 น. ที่รัฐสภา นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมวิป 2 ฝ่าย เพื่อหารือเกี่ยวกับวันโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ว่า หลังจากการประชุมในช่วงเช้าไม่ได้ข้อยุติ จึงมาประชุมในรอบบ่าย แต่เนื่องจากที่ประชุมวิป2ฝ่าย ได้แก่ฝ่ายที่คาดว่าจะไปรวบรวมเสียงข้างมากได้เสนอให้ประธานบรรจุระเบียบวาระในการโหวตเลือกนายกฯ และจะต้องมีมติภายในวันนี้(3ก.ย.) ดังนั้นหากมีข้อสรุปก่อนเวลา16.30น. วันนี้(3ก.ย.) ทางนายวันมูหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้อย่างเร็วที่สุดคือวันที่5ก.ย. ตามข้อบังคับ ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเดิม ชี้แจงว่าขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ได้เสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อยุบสภา ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการที่จะเสนอไปเพื่อให้มีพระบรมราชวินิจฉัย
“เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ รวมถึงความเห็นทั้ง2ฝ่าย ผมจึงขอที่ประชุมว่า อำนาจการบรรจุระเบียบวาระเป็นอำนาจประธานสภาฯ กรรมการชุดผมเป็นกรรมการที่หาข้อสรุปให้ประธานฯ โดยประธานฯจะลงจากบังลังก์ห้องประชุมสภาฯเวลา16.30น. เพื่อความคลายกังวล ผมจะไปทำหน้าที่ต่อจากนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อให้ได้ข้อชัดเจนในวันนี้ว่าประธานวันนอร์จะมีความเห็นอย่างไร เชื่อว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ จะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย พวกผมเองไม่สามารถบรรจุระเบียบวาระได้ ทุกฝ่ายก็เห็นว่าการก้าวล่วงพระราชอำนาจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนไทย จึงขอเวลาไม่นาน ผมยืนยันในที่ประชุมว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีนายกฯ บนพื้นฐานของความสง่างาม ไม่ให้เกิดข้อครหานินทาภายหลัง ไม่ใช่เป็นการถ่วงเวลา เป็นกระบวนการตามกฎหมาย” รองประธานสภาฯ คนที่2 กล่าว
เมื่อถามว่าการที่ให้รอแบบนี้ ฝ่ายที่อยากให้บรรจุระเบียบวาระการโหวตนายกฯ ยอมรับได้หรือไม่ รองประธานสภาฯ กล่าวว่า ตนดูหลายคนแล้วฝั่งนั่นก็พยักหน้าอยู่ว่าต้องรอ เพราะเป็นพระราชอำนาจ ไม่มีใครก้าวล่วงได้ ส่วนจะใช้เวลากี่วัน ไม่มีใครกล้าพูด แต่โดยธรรมเนียมแล้วไม่นาน ส่วนที่ทางพรรคภูมิใจไทย ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์เพื่อขอให้บรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกฯนั้น เป็นดุลยพินิจของประธานฯว่าจะดำเนินอย่างไร อย่างรอบด้าน รอบคอบ