เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 ก.ย.68 ที่บริเวณบ่อปลาอานนท์ ริมน้ำเจ้าพระยา อาคารรัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม โดยนายณัฐพงษ์ แถลงว่าในช่วงระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมานี้ เป็นช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอน และมีกระแสข่าวเรื่องการยุบสภา จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการ หรือได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากพรรคเพื่อไทยว่ามีการเสนอการยุบสภาแล้วหรือไม่ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยผู้บริหารของพรรคบางส่วน ได้มีการประชุมเมื่อเช้านี้ และได้ข้อสรุปว่า พรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดว่า ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือ การคืนอำนาจให้กับประชาชนตัดสินใจกำหนดอนาคตของประเทศ ผ่านการยุบสภา เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่เป้าหมายคือเพื่อให้มีรัฐบาลใหม่ที่มีความชอบธรรม มีเสถียรภาพ และมีศักยภาพในการแก้ไขปัญหาสําคัญ ด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง อย่างไรก็ตามรัฐบาลผู้มีอำนาจในการยุบสภากลับยังไม่ให้ความชัดเจนไม่ตอบสนอง และยังมีความพยายามที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด โดยไม่สำนึกถึงความล้มเหลวในการบริหารประเทศของตนเอง และไม่ตระหนักว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่อาจมอบความไว้วางใจให้แก่รัฐบาลชุดนี้ได้อีกต่อไป
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้น.ส.แพททองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา พรรคประชาชนจึงเห็นว่าหากพรรคงดออกเสียงในการพิจารณาให้ความเห็นชอบนายกรัฐมนตรีคนใหม่อาจเกิดเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงที่จะทำให้เกิด **การไหลกลับไปรวมตัวกันของพรรคร่วมรัฐบาลชุดเดิมที่ได้บริหารประเทศอย่างล้มเหลวมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งเสี่ยงต่อการเปิดทางให้หัวหน้าคณะปฏิวัติรัฐประหารกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ก็เปิดช่องให้มีนายกรัฐมนตรีคนนอก ซึ่งขัดต่อหลักการที่พรรคประชาชนยึดถือ
“ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา หลังจากได้มีการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชนได้พิจารณาอย่างละเอียดถึงความเข้าใจของ 2 พรรคต่อเงื่อนไขของพรรคประชาชน และกลไกในการควบคุมให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องรักษาสัญญาตามเงื่อนไขดังกล่าว ประกอบกับกระบวนการในการรับฟังเสียงของสมาชิกพรรค คณะทำงานของพรรคทั่วประเทศ ผู้แทนราษฎรของพรรคอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว วันนี้คณะกรรมการบริหารของพรรคจึงได้ประชุมและมีมติว่า
หากมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ความเห็นชอบเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคประชาชนจะให้ความเห็นชอบแก่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย”หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าว
หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยจะต้องยอมตกลงเงื่อนไขดังต่อไปนี้ 1.นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้มีการจัดเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป 2. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จำเป็นจะต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 256 **คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยเร็ว ทั้งนี้ต้องไม่เกินกว่าวันลงคะแนนเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
3. ในกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่จำเป็นจะต้องมีการออกเสียงประชามติก่อนที่รัฐสภาจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 256 นั้นคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ พรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย จะต้องเร่งผลักดันร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม เพื่อกำหนดให้มีกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จในวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้โดยเร็ว 4. เพื่อเป็นการสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยจะต้องไม่ดำเนินการใด ๆ เพื่อทำให้ตนเองเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก 5.พรรคประชาชนยืนยันจะดำรงตัวอยู่ในสถานะพรรคฝ่ายค้านต่อไป โดยทำหน้าที่ตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า มติของคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชนดังกล่าวจะมีผลก็ต่อเมื่อหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกันนี้ และมีถ้อยแถลงต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ ขอยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้ตัดสินใจโดยใช้ข้อคิดเห็น หรือในเรื่องของความนิยม ผลประโยชน์ของพรรคประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่ตัดสินใจโดยมีเป้าหมายเพื่อจะ นำพาประเทศไปสู่ทางออกตามวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ป้องกันอำนาจนอกระบบเข้าแทรกแซง ปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และคืนอำนาจให้กับประชาชนโดยเร็วที่สุด