วันที่ 2 ก.ย.2568 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวกับข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตอนหนึ่งว่า การสู้รบชายแดนไทยกัมพูชา หนักกว่าปี 2554 ทหารกัมพูชามีความสูญเสียจำนวนมาก หลายประเทศติดต่อมา ขอให้เราหยุดยิง แต่เป็นการหยุดยิงชั่วคราว ต่อรองสุดๆแล้ว ได้มาแค่นี้ อยู่ระหว่างการเจรจา เขาก็ใช้สูตรเดิมวางระเบิด บอกไม่ได้วาง เจรจาอีกอย่าง พูดอีกอย่าง ทำอีกอย่าง ถามว่าน่าคบหรือไม่ “แต่ยอมรับว่ามีบางคนที่อยากคบ ตนไม่ได้พาดพิงใคร จะคบใครอยากให้คิดให้ดี ”
พลโท บุญสิน ยืนยันว่า ภูมะเขือ พื้นที่ที่เราควบคุมได้ อยู่ในอธิปไตยของไทย เราไม่ได้รุกล้ำใคร แม้จะมีผู้ใหญ่ถามว่า ได้รุกประเทศเขาหรือไม่ ตนไม่สนใจอดีตไม่สำคัญ แต่ปัจจุบันต้องเอาออก
ส่วนปราสาทพระวิหาร เราแพ้คดีไปแล้ว ได้คุยนักกฎหมาย มี2วิธี ได้คืนมา 1.ยื่นต่อศาลโลกใหม่ คำตัดสินนั้น ไม่ชอบธรรมกับฝ่ายไทย ให้ศาลโลกได้ทบทวน เนื่องจากมีปัจจัยเอื้อกับไทย ทั้งทางกายภาพเป็นของไทย ฝั่งเขาเป็นหน้าผา แต่ต้องดูข้อกฎหมายเพราะทั่วโลกยอมรับหมดแล้วว่าเป็นของกัมพูชา กับอีกแนวทางใช้กำลังเข้ายึด แต่ทั่วโลกตำหนิ ปัจจุบันกัมพูชาปิดตายปราสาทพระวิหาร แม้ทางขึ้นอยู่ฝั่งไทย แต่เขาไม่ให้ขึ้น และเขาทำทางขึ้นฝั่งเขา แต่คืบหน้าไม่มาก
พลโทบุญสิน กล่าวถึงเรื่อง การวางตามรั้วลวดหนามว่า ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ด้วย ส่วน จ.สระแก้ว บ้านหนองจาน พื้นที่ในความรับผิดชอบของกองทัพภาคที่1 การวางรั้วลวดหนามตามแผนที่1:50000 เราให้เขาอยู่มานานยุคเขมรแดง ไม่ทวงกันตั้งแต่แรก ในเวลานี้เขาอยู่ในแผ่นดินไทย ถือเป็นวิธีการปฏิบัติกองทัพที่อยู่หน้างานตรงนั้นว่า จะดำเนินการอย่างไร ปัจจุบันมีการวางรั้วลวดหนามประกาศอาณาเขต การรื้อรั้วลวดหนาม เท่ากับรื้ออาณาเขตไทย
"พื้นที่กองทัพภาคที่2 มีพื้นที่เช่นนี้ที่ ช่องอ่านม้า ปราสาทตาเมือนธม วางรั้วลวดหนามไว้ทั้งหมด หากมาแตะรั้วผม ต้องทำใจ ผมถือว่า แตะอธิปไตยไทย ถ้าอยากรู้ว่าจะทำอย่างไร ก็ลองมาเตะดู และยืนยันรั้วพื้นที่ทภ.2 อยู่ชั่วกัลปวสาน สำหรับปราสาทตาเมือนธม ปิดตาย รั้วลาดหนามขึงแล้วขึงเลยไม่เอาออก จะขึ้นมาต้องใช้วีซ่า ใช้พาสปอร์ต " พลโทบุญสิน กล่าว
พลโทบุญสิน กล่าวว่า ไม่ขอไม่วิจารณ์เรื่องในอดีต น่าจะเป็นเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีต่อการที่หยวนๆ และเป็นนโยบายตามห้วงเวลา และไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่ๆน้องๆยุคนั่น เพราะอะไรยอมให้กัมพูชาขึ้นมาปราสาทตาเมือนธม หรือมองเป็นเพื่อนสนิทกัน กลายเป็นประเพณี ทำให้ปิดไม่ได้