เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 2 ก.ย. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการตั้งข้อสังเกตุการทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นวาระแล้ว แต่ยังทำหน้าที่เป็นองค์คณะในการพิจารณาคดีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีผลกระทบต่อคดีหรือไม่ว่า เอกสารออกมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ซึ่งออกมาอย่างไร ตนก็ไม่ทราบ

แต่เท่าที่ทราบนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยร่วมกันลงรายชื่อ ทำคำร้องเพื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความวินิจฉัยความชอบตามรัฐธรรมนูญ โดยจะมีการอ้างเหตุผล 2 ข้อ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ได้แก่

1.ทันทีที่มีพระบรมราชโองการในวันที่ 29 ก.ย. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนเก่าก็น่าจะพ้นไปในวันดังกล่าว การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ยังไม่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ใช่ประเด็น แต่เมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คนเก่าก็ไม่ควรทำหน้าที่ต่อไปไปได้ เพราะต้องถือว่าคนใหม่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ แล้ว ส่วนจะทำหน้าที่ได้หรือไม่เป็นคนละเรื่อง

2.มีการตั้งประเด็นว่าพระบรมราชโองการมีเมื่อวันที่ 29 ก.ย. แต่ทำไมผู้รับสนอง พระบรมราชโองการ จึงส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญล่าช้าหลายวัน แทนที่จะส่งในวันเดียวกัน แต่ล่าช้าไป 1-2 วัน มีเจตนาให้ตุลาการคนเก่าทำหน้าที่ต่อไปหรือไม่ แล้วคนรับสนองกับโจทก์ กลายเป็นคนเดียวกัน 

เมื่อถามว่า จะเป็นผลทำให้คดีนี้เป็นโมฆะเลยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดแบบนั้น แต่ที่ตนพูดหมายความว่า ให้ศาลรัฐธรรมนูญ ไปวินิจฉัยว่าเห็นชอบหรือไม่ที่มีการทำแบบนี้ ส่วนจะโมฆะหรือไม่เราไม่พูด ให้เขาไปพูดกัน 

เมื่อถามย้ำว่า ไม่มีผลกับมติคำวินิจฉัยที่ออกมาใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหาคือ หากเขาทำหน้าที่ไม่ได้ จำนวนเสียงก็จะเป็น 5 ต่อ 3 องค์ประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะมีเพียง 8 คน ซึ่งเป็นประเด็นที่ สส. ตั้งไว้ 

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ผลจะออกมาเป็นอย่างไรได้บ้าง นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ขอก้าวล่วง อยู่ที่ดุลยพินิจของศาล