“หมอเปรม” สับงบฯ69 รับรองวุฒิผู้เรียนจบต่างประเทศล่ม ยกกรณีอธิการบดีม.รามคำแหงได้รับคัดเลือกจากสภามหาวิทยาลัยฯแต่ทำงานไม่ได้ถู กอ้างยังไม่รับรองวุฒิฯทั้งที่จบมหาวิทยาลัยดัง จี้กท.อว.ต้องชัดเจนไม่ให้มีระบบผลัดกันเกาหลัง"
วันที่ 2 ก.ย.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 จำนวนเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เป็นวันที่สอง ต่อมา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายในการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ว่า การจัดสรรงบประมาณถ้ามีการทุจริตจะไม่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง ยกตัวอย่างกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมถือเป็นหัวใจของประชาชนในการพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงอยากทราบว่ากระทรวงการอุดมศึกษาฯกมธ.ได้มีการสอบถามหรือไม่กรณีมีการคัดเลือกอธิการบดีในบางมหาวิทยาลัยในลักษณะ "ผลัดกันเกาหลัง"อธิการบดีที่หมดวาระมักจะตั้งคนที่ตนเองพูดคุยได้ขึ้นมาทำงานต่อ จึงมีคำพูดว่า "ผลัดกันเกาหลัง"เป็นเรื่องที่ไม่มีธรรมาภิบาล อีกเรื่องหนึ่งคือปัญหาการรับรองคุณวุฒิสำหรับผู้ที่เรียนจบจากต่างประเทศเข้าเป็นบุคลากร
"ผมขอยกตัวอย่างมีกรณีของผศ.ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ ได้รับการสรรหาจากสภามหาวิทยาลัยรามคำแหงให้เป็นอธิการบดี แต่กลับถูกตั้งกรรมการสอบเกี่ยวกับคุณวุฒิที่จบมาจากต่างประเทศ มีการสอบสวน มีการฟ้องร้องกันจนใกล้จะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งอธิการบดีก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะคุณสมบัติของผศ.ดร.สืบพงษ์ที่เรียนจบมาจากสหรัฐอเมริกา แต่มาตกม้าตายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมจึงอยากให้กระทรวงอว.ไปดูแลกรณีนี้ด้วยว่าผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ในการตรวจสอบคุณวุฒิ เกี่ยวกับผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นอธิการบดีแล้วแต่กลับทำงานไม่ได้จนใกล้หมดวาระการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากกระทรวงอว.ไม่มีความชัดเจนเรื่องการรับรองคุณวุฒิคนที่เรียนจบจากต่างประเทศ และปล่อยให้การเมืองเข้ามายุ่งมากเกินไปได้หรือไม่ ฝากถามประธานวุฒิสภาไปถึงกระทรวงอว.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความกระจ่างด้วย"สว.เปรมศักดิ์กล่าว
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนอยากถาม นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯของวุฒิสภาว่า ได้มีการสอบถามผู้มาชี้แจงจากกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับจัดงบประมาณไปให้โรงพยาบาลขนาดเล็กอย่างพอเพียงมากน้อยเพียงใดหรือไม่ จากการดูการจัดงบประมาณของโรงพยาบาลขนาดเล็กของกระทรวงสาธารณสุข พบว่า อยู่ในภาวะวิกฤตในหลายแห่ง กมธ.ได้สอบถามกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ว่างบที่ไม่พอเพียงดังกล่าวเกิดผลกระทบต่อการให้บริการประชาชนในเขตชนบทรอบนอกมากน้อยเพียงใด แล้วมีการจัดงบประมาณจากส่วนกลางไปช่วยหรือไม่ การคัดเลือกบุคลากรไปอยู่โรงพยาบาลขนาดเล็กโดยเฉพาะตามแนวชายแดนยิ่งต้องให้ความสำคัญกับคนที่บริหารจัดการให้ดีและมีแรงจูงใจในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่วนรวม ไม่ใช่อยู่ไกลยิ่งแย่จะทำให้ขาดขวัญกำลังใจ
นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนั้น ยังมีเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่ผ่านมามีข่าวตลอดเกี่ยวกับการดูแลรักษาชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มที่เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายกลับเข้ามาใช้สิทธิประโยชน์ในระบบบริการของรัฐ สร้างภาระให้ระบบสาธารณสุขโดยเฉพาะโรงพยาบาลตามแนวชายแดนต้องแบกรับผู้ป่วยที่เป็นชาวต่างชาติที่ข้ามชายแดนเข้ามา แม้เราจะมีการพูดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชนความเห็นอกเห็นใจแต่อย่าลืมว่าการดูแลผู้ป่วยคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศจะดูแลอย่างไรถึงจะเหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนคนไข้ที่เป็นแรงงานข้ามชาติควรจะกำหนดเรื่องประกันสุขภาพล่วงหน้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้มาใช้ทรัพยากรของไทยแบบ full service จนระบบการสาธารณสุขของเราต้องรับภาระอย่างหนักในระยะยาว มาตรการแบบนี้ได้สอบถามกระทรวงสาธารณสุขหรือไม่ ดังนั้นต้องทำควบคู่ 2 อย่างคือสิทธิมนุษยชนและระบบสุขภาพของเราให้มีประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนคนไทยของเราด้วย
"ผมอยากให้การจัดทำงบประมาณในแต่ละปีมีความโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน อย่าให้เหมือนแท่งไอติมจากส่วนกลางลงไปถึงต่างจังหวัดเหลือแต่ไม้ที่เป็นแกนไอติม ส่วนเนื้อไอติมละลายหมดแล้ว อย่างไรก็ตามองค์กรความโปร่งใสนานาชาติได้สำรวจการทุจริตในเมืองไทย พบว่า ต่ำมาก จาก 180 ประเทศทั่วโลกไทยได้ลำดับ 108 จากคะแนนทั่วโลกเราได้ 34 คะแนนลดลงกว่าปีที่แล้ว 35 คะแนนจึงอยากถามว่าเมื่อมีงบประมาณแบบนี้เราจะลดความเสี่ยงในการทุจริตได้อย่างไรลดการคอร์รัปชั่นได้อย่างไรถึงจะยกระดับคะแนนดัชนีการคอร์รัปชันให้สูงขึ้นเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างประเทศในการเดินทางมาลงทุนในประเทศไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น"นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว