วันนี้ 2 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สถานการณ์ชายแดนยิ่งยืดเยื้อ ไม่มีทีท่าว่าจะจบสิ้น ก็ยิ่งส่งผลให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนยิ่งย้ำแย่ ประชาชนที่ทำมาค้าขายได้รับผลกระทบไปตามๆกัน ไม่มีรายได้เลี้ยงชีพและครอบครัว เนื่องจากไม่มีลูกค้าและนักท่องเที่ยวเข้ามา พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ชายแดน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่และรัฐบาลใหม่ เร่งแก้ปัญหาชายแดนให้จบโดยเร็วพร้อมด้วยปัญหาเศรษฐกิจที่ตกต่ำ

ขณะที่นายทองยศ คำเสียง พ่อค้าย่านเศรษฐกิจชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเตรียมจะเปิดร้านลงทุนขายชาบูที่ฝั่งชุมชนโอรเสม็ดช่องจอม อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ฝั่งกัมพูชา เมื่อช่วงก่อนที่จะมีปัญหาระหว่างชายแดนไทย=กัมพูชา และได้มีการเช่าที่และร้านฝั่งกัมพูชาแล้ว และได้เตรียมอุปกรณ์ขายชาบู เพื่อจะนำลงไปไว้ที่ฝั่งกัมพูชาก่อนเกิดเหตุการณ์ได้ 3 วัน กลับมีสงครามเกิดขึ้นก่อน จึงเปลี่ยนแผนว่าจะเปิดร้านขายที่ไหน และได้ตัดสินใจไปเปิดร้านขายที่บริเวณตรงข้ามโตโยต้า ทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร จ.ร้อยเอ็ด ชื่อร้าน”มาลีชาบู”พึ่งเปิดได้ 10 กว่าวัน ก็ยังไม่ได้กำไร พอได้ขายจ่ายค่าที่และค่าลูกน้องก่อน ฝากชาวร้อยเอ็ดไปช่วยกันอุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าชายแดนที่หนีไปทำมาหากินด้วย ขอบคุณมากครับ

นายทองยศ คำเสียง กล่าวอีกว่า ฝากนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาช่วยแก้ปัญหาชายแดนให้จบเร็วๆ ชาว้บ้านเดือดร้อนมาก ทำมาหากินไม่ได้ ไม่มีเงินใช้จ่าย ชาวบ้านพูดพูดเป็นเสียงเดียวกันไม่ว่าจะตลาดช่องจอมหรือที่ไหนก็ค้าขายไม่ได้เลย ชาว้บานก็ไม่มีเงินจะซื้อกิน คนก็ไม่มาทเที่ยว เป็นกันทุกทีแนวชายแดน อยากให้รัฐบาลเยียวชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าย่างไร แต่ละจุดแต่ละที่ของพื้นที่ชายแดน และฝากไฟแนนซ์ทุกแห่ง อยากให้ผ่อนผันประชาชนชายแดน ช่วยชาวบ้านด้วย