หญิงณัฐิกา วัธนเวคิน อังอุบลกุล ประธานสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ (สสธวท) ประธานคณะกรรมการอำนวยการสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (สอ.ดย.) เปิดงาน จัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน 6 ภาคี ประจำปี 2568

 

โดยมี เศรษฐพล ธรรมจินดา ผู้อำนวยการ ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กรรณนิกา เจริญลักษณ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานดำเนินงานโครงการฯ, กอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย, โกวิท ผกามาศ รองประธานคณะกรรมการพัฒนาสังคมและ CSR หอการค้าไทย พร้อมด้วย อดีตประธานสหพันธ์ฯ อย่าง จรรย์สมร วัธนเวคิน, มาลีรัตน์ ปลื้มจิตรชม พร้อมด้วย วัชรี ศรีตระกูล รองประธานสหพันธ์ฯ และรองประธานโครงการฯ, ลดาวัลย์ จงวิศาล รองประธาน สอดย. เข้าร่วมงาน ซึ่งมี ชยุต ปริญญาธนกุล และ นฤมล บุญสนอง วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ธิษณา ธิติศักด์สกุล CEO & Co-Founder บริษัท โนบูโร แพลตฟอร์ม จำกัด รับหน้าที่เป็นวิทยากร ที่หอประชุมศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  

 

 

คุณหญิงณัฐิกา เปิดเผยว่า ด้วยความตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างวินัยทางการเงิน สหพันธ์ฯ ซึ่งประกอบด้วยสมาคมสมาชิกทั่วประเทศ 24 จังหวัด จึงได้ร่วมร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระยะยาว 9 ปี กับ 5 ภาคีหลักระดับชาติล้วนมีบทบาทในการขับเคลื่อนงานด้านการเงินอย่างรอบด้าน ได้แก่ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, หอการค้าไทย, สมาคมธนาคารไทย และสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อดำเนินการจัดทำ “โครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน” ขึ้น

 

 

“ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบปัญหาระดับชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และปัญหาหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง เพราะคนไทยจำนวนมากขาดการออมเผื่อภาวะฉุกเฉิน ออมเผื่อการเกษียณ และยังใช้เงินเกินตัว ดังนั้น ความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการทางการเงินอย่างถูกวิธี จึงเป็นสิ่งที่ต้องผลักดันและขยายผลไปสู่ชุมชนวงกว้าง ด้วยการเริ่มจากความมั่นคงทางเศรษฐกิจส่วนบุคคลและครัวเรือน สู่ชุมชน โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายคือสตรี” คุณหญิงณัฐิกา กล่าว

 

 

คุณหญิงณัฐิกา กล่าวต่ออีกว่า วินัยทางการเงินเป็นพื้นฐานของความสำเร็จในชีวิตของทุกคนและทุกองค์กร เป็นรากฐานสำคัญที่จะสร้างความก้าวหน้าสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน มั่นคง และมีธรรมาภิบาล แต่ปัญหาการขาดวินัยทางการเงินนั้นเปรียบได้ดุจสนิมที่เกาะกร่อนบั่นทอนทั้งชีวิต ตนเอง ครอบครัว และองค์กร ซึ่ง การจัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน 6 ภาคี ประจำปี 2568 หลักคือ เพื่อให้คนไทยปรับปรุงเรื่องการหาเงิน การใช้เงิน การออมเงิน และการลงทุนให้เข้ากับสู่แนวทาง ที่สร้างฐานความสำเร็จในชีวิตไม่ว่าจะเป็น ส่วนตัว ครอบครัว หรือองค์กร ขณะเดียวกัน การสร้างวินัยทางการเงิน ยังสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นในครอบครัว อีกสิ่งสำคัญอีกประการคือช่วยกระตุ้นจิตสำนึกที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมทุกระดับ อันจะก่อให้เกิดภาพพจน์ที่ดีของประเทศไทยและสร้างเสริมเศรษฐกิจไทยให้เติบโตโดยปราศจากภาระหนี้เสีย

 

ดังนั้น การจัดอบรมโครงการรณรงค์สร้างวินัยทางการเงิน 6 ภาคี ประจำปี 2568 ในครั้งจึงเน้นเรื่องการส่งเสริมความรู้ด้านการวางแผนและวินัยทางการเงิน ในหัวข้อเรื่อง “ก้าวสู่คัมภีร์พี่เลี้ยงการเงิน” และการอบรมต่อยอดความรู้การลงทุนในหัวข้อ “อัปเดตเทรนด์ 2H2025 สร้างพอร์ตแกร่ง รับมือความผันผวน” ซึ่งเป็นภารกิจที่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ประชากรอายุยืนยาวขึ้น และปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดการทางการเงิน จึงเป็นสิ่งที่ควรได้รับการรณรงค์อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ

นอกจากนี้ คุณหญิงณัฐิกา กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า โครงการนี้ได้รับความสนใจจากองค์กรหลากหลายสาขาอาชีพและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้าร่วมอบรวมเป็นอันมาก โดยได้นำความรู้นี้ ไปปรับและใช้กับพนักงานของตน เป็นการช่วยขับเคลื่อนภายในหน่วยงาน อีกทั้ง ยังได้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับทั้งองค์กรภายในประเทศ และเครือข่ายระหว่างประเทศ อาทิ สมาชิกสหพันธ์สากล และเครือข่ายผู้ประกอบการสตรีอาเซียน สากล (AWEN) โดยได้ส่งมอบคู่มือเพื่อเป็นแนวทางการดำเนินงานให้กับสมาชิกประเทศต่าง ๆ ด้วย ซึ่งความสำเร็จของโครงการในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับในระดับประเทศและนานาชาติ อาทิ โล่ประกาศเกียรติคุณองค์กร CSR เป็นเลิศ จากกระทรวง พม. และรางวัล Excellent Projects Awards อันดับ 1 จากสหพันธ์สมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพสากล ซึ่งเป็นเครือข่ายสตรีนักธุรกิจกว่า 100 ประเทศทั่วโลก