วันที่ 31 ส.ค.2568 เวลา 9.00 น. ปริมาณฝนสะสม อ.น้ำหนาว ต.หลักด่าน 148.5 มม. ต.วังกวาง 137.6 มม. ต.น้ำหนาว 84.8 มม. อ.หล่มเก่า ต.ศิลา 131.5 มม. ต.หินฮาว 113.5 มม. ต.บ้านเนิน 105 มม. อ.วังโป่ง ต.ซับเปิบ 65.5 มม. ต.วังหิน 60 มม. ต.วังโป่ง 57.6 มม. เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมพื้นที่ อ.หล่มเก่า ต.ตาดกลอย หมู่ 1,3,4,7,8 บ้านเรือน 50 หลังคาเรือน โรงเรียน 1 แห่ง (โรงเรียนบ้านตาดกลอย) ทางหลวงหมายเลข 2216 อ.น้ำหนาว ต.หลักด่าน หมู่ 1,2,3, 4,5,7,9,11 ต.โคกมน หมู่ 6 ถนน 1 ทางหลวงหมายเลข 2216 สะพาน 1 แห่ง อ.หล่มสัก ต.ท่าอิบุญ หมู่ 1,10 บ้านเรือน 2 หลัง รวมพื้นที่ 3 อำเภอ 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน
โดยบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย นั้นอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต แนวโน้มสถานการณ์ยังมีฝนตกทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ โซนร้อน “หนองฟ้า” ในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตั้งศูนย์บัญชาการการณ์เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขบัญหาอุทกภัยจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สั่งการเร่งด่วนให้นายอำเภอ และนายกองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง
เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมงพร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ ฝ่ายปกครอง ร่วมกับ อปท. เร่งสำรวจความเสียหายให้ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบ ติดตามข้อมูลสภาวะอากาศ และข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ กำลังพล ให้พร้อมสนับสนุนจังหวัดตลอด 24 ชั่วโมง ลงพื้นที่เข้าสำรวจความเสียหาย และให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ปภ.จังหวัดเพชรบูรณ์ เตรียมพร้อมรถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย 1 คัน เพื่อเข้าช่วยเหลือในพื้นที่
ทั้งนี้ อำเภอหล่มเก่า อำเภอน้ำหนาว และอำเภอหล่มสัก ได้แจ้งเตือนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์ของพายุโซนร้อน “หนองฟ้า” แจ้งเตือนข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง รวมถึงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เตรียมบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชน หากเกิดสาธารณภัยในพื้นที่ ตลอด 24 ชั่วโมง
