เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่วิหารเซ็งหงั่มตั่ง มูลนิธิพุทธรรมฮุก 31 นครราชสีมา ถนนบายพาส ต.หนองกระทุ่ม อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์  ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จภารกิจเป็นประธานในพิธีซิโกว แจกทานทิ้งกระจาด ประจำปี 2568 ว่า “ช่วงนี้ต้องให้เป็นไปตามสถานการณ์การเมือง ต้องเลือกนายกรัฐมนตรีตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยต้องออกจากตำแหน่งรวมทั้งคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เป็นเพียงรัฐบาลรักษาการก็ต้องว่ากันตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนนายกรัฐมนตรีจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่และต้องแถลงนโยบายกันใหม่ จากนี้ต้องมีกระบวนการที่ใช้เวลาเพื่อจะเห็นภาพของรัฐบาลใหม่ นโยบายใหม่ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของสภา ฯ ฉะนั้นมาตรการ นโยบายอะไรที่เป็นเรื่องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจต้องขึ้นอยู่กับการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ด้วย”

นายสุวัจน์ กล่าว ล่าสุดในที่ประชุมพรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยกันส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ตอนโครงสร้างของรัฐบาลชุดเก่ายังมีเสียงที่เกินกึ่งหนึ่งอยู่ แต่เมื่อมีสถานการณ์เกิดขึ้นก็เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่จะพูดคุยกับแต่ละพรรคการเมืองโดยรวบรวมเสียงข้างมากให้เกิดขึ้น ฉะนั้นต้องดูสถานการณ์ต่อจากนี้ไปว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นอย่างไร

ส่วนพรรคประชาชนได้ประกาศจุดยืนชัดเจน ยินดีที่จะสนับสนุนนายกรัฐมนตรีแต่มีเงื่อนไข 4 เดือน ต้องยุบสภาและทำประชามติ โดยเสนอเป็นหาทางออกให้กับประเทศในมุมของพรรคประชาชนขึ้นอยู่กับการจัดตั้งรัฐบาลจะพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองกันอย่างไร รับฟังข้อเสนอหรือเงื่อนไขจากพรรคการเมืองอื่นๆ ที่จะเป็นประโยชน์ในการจัดตั้งรัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศหรือเป็นประโยชน์ในการสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการพูดจาการพูดคุยในรายละเอียดนั้น พรรคร่วมรัฐบาลได้มอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ตัดสินใจ ฉะนั้นความคืบหน้าเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย คงจะมาเล่าให้พวกเราฟังได้รับทราบกันต่อไป ยังไงก็ต้องมีรัฐบาลใหม่มาทำงานมาแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ต้องเป็นไปตามกระบวนการภายใต้รัฐธรรมนูญ

“สำหรับพรรคชาติพัฒนา ได้ร่วมแถลงกับพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว เราก็เป็นส่วนหนึ่งของพรรครัฐบาลมาตั้งแต่เลือกตั้งในสมัยนายก “เศรษฐา” นายก “อุ้งอิ๊ง” เมื่อวานนี้พรรคชาติพัฒนาก็มีมติร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนพรรคพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำเดินหน้าเพื่อจัดตั้งรัฐบาลต่อไป ส่วนโครงสร้างของรัฐบาลใหม่ ภายใต้ฐานแกนนำพรรคเพื่อไทย ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีมีองค์ประกอบอย่างไร หรือมีเงื่อนไขอย่างไร มอบให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้ตัดสินใจ” นายสุวัจน์ กล่าว