ที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายหมวดเอกธรรศ ศรีดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังร่วมกับนายหมวดตรีสิทธา ภูมิฐานนท์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงเจ้าหน้าที่ทหารกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี  ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) จับกุมนายกิตติ หรือติ บุญประเสริฐ  อายุ 50 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้าบรรจุในซองซิปสีน้ำเงิน จำนวน 60 เม็ด 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับการร้องเรียนถึงการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ อำเภอศรีประจันต์จึงนำกำลังออกตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นผู้ต้องสงสัยเพื่อป้องปราม สามรถจับกุมผู้เสพได้หลายรายก่อนนำตัวไปสอบสวนขยายผลซึ่งผู้เสพรับสารภาพว่าซื้อยาบ้ามาจากนายกิตติ หรือติ  อาศัยอยู่ที่เพิงพักไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ตำบลศรีประจันต์ อำเภอศรีประจันต์  ซึ่งมีการมั่วสุม เสพยาเสพติดร้องเพลงเสียงดัง และลักลอบขายยาเสพติด จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมได้ขณะยาบ้าหมดฤทธิ์นอนอยู่ในมุ้งที่พื้นหน้าห้องนอนพบไฟแช็กแก๊สที่ใช้แล้วจำนวนมากกระจายเต็มพื้น 

เมื่อเจ้าหน้าที่นายกิตติ มีอาการตกใจแบบงง ๆ เจ้าหน้าที่สอบถามว่าที่ตัวและในเพิงพักมียาบ้าหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่นายกิตติ  ตอบว่าไม่มีหมดแล้วตนเสพไปหมดแล้วแต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ พยายามค้นหาสุดท้ายพบยาบ้าบรรจุในซองพลาสติกสีฟ้าซ่อนอยู่ใต้ที่นอน เมื่อจนด้วยหลักฐานนายกิตติ จึงให้การซัดทอดว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวตนซื้อมาจากนายแมว บ้านอยู่ตลาดโพธิ์พระยา จะสั่งซื้อมาครั้งละ 200 เม็ดราคา 2,400 บาท แล้วแบ่งกับเพื่อนคนละครึ่งนำไปขายต่อให้ลูกค้าเม็ดละ 25 บาท  แล้วเอาไว้เสพด้วย เมื่อก่อนเคยขายยาบ้าอยู่ที่จังหวัดอ่างทอง แต่ถูกตำรวจกวดขันจนอยู่ไม่ได้ต้องหนีมาอยู่ที่ศรีประจันต์ ซึ่งตนเคยถูกจับคดียาเสพติดมาแล้ว 5-6 ครั้งก่อนจะมาถูกจับอีก 
 
หลังถูกจับเจ้าหน้าที่ได้ให้นายกิตติ  ร้องเพลงให้ฟังแต่นายกิตติบอกร้องไม่ออก เจ้าหน้าที่จึงให้นายกิตติ  ติดต่อล่อซื้อยาบ้าจากนายอุทัย หรือแมว สีตองอ่อน  หรือแมวโพธิ์พระยา อายุ 48 ปี จำนวน 200 เม็ด โดยนัดส่งยาบ้ากันที่เพิงพักของนายกิตติ โดยเจ้าหน้าที่ได้วางกำลังดักซุ่มบริเวณทางเข้าและที่บ้านเมื่อถึงเวลานายอุทัย ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างนำยาบ้ามาส่งโดยมีนายเทวพร หรือบอล  มะปรางทอง  อายุ 35 ปี นั่งรถมาด้วยพอมาถึงหน้าบ้านนายอุทัย และนายเทวพร เกิดไหวตัวทิ้งรถวิ่งหนีไปหลบอยู่ที่ร่องน้ำด้านหลังห้องน้ำของชาวบ้านใกล้กันพร้อมกับโยนยาบ้าทิ้งในพงหญ้าแต่สุดท้ายหนีไม่รอด

เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวทั้งคู่มาสอบถามชื่อว่าใช่นายแมว หรือเปล่าเบื้องต้นทั้งคู่ไม่ยอมตอบแต่สุดท้ายก็เปิดปากแต่ไม่ยอมรับว่านำยาบ้ามาส่งโดยบอกกับเจ้าหน้าที่ว่ามาเก็บเงินค่าของ แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อจึงช่วยกันค้นหาหลักฐานสุดท้ายก็พบยาบ้าอยู่ในซองพลาสติกสีดำอยู่ในพงหญ้า เค้นถามนายอุทัย ยอมรับสารภาพเพราะจนด้วยหลักฐานว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของตนซื้อมาจากนายเปิ้ล เอเย่นต์ยาบ้าอยู่ที่ชุมชนวัดพระรูป  ราคาถุงละ 2,000 บาทแล้วเอามาขายต่อให้วัยรุ่นและชาวบ้านทั่วไปแล้วก็เสพด้วย เจ้าหน้าที่จึงตรวจนับยาบ้าพบว่ามี จำนวน 196 เม็ดถูกตอนไป 4 เม็ด 

ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุมตรวจค้นนายอุทัยกับนายเทวพร  อยู่นั้นได้มีลูกค้าขาประจำของนายกิตติ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาซื้อยาบ้ากันอย่างไม่ขาดสายเจ้าหน้าที่จึงทำประวัติไว้เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดก่อนปล่อยตัวไป
   
จากนั้นได้ควบคุมตัวนายกิตติ หรือติ  นายอุทัย  และนายเทวพร ไปสอบสวนต่อที่ สภ.ศรีประจันต์ เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหานายกิตติ จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย 

ส่วนนายอุทัยและเทวพร ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย ควบคุมตัวดำเนินคดีต่อไป