วันที่ 28 ส.ค.68  ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เชี่ยวชาญด้านสมองและระบบประสาท โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กระบุว่า ดูหมอบี หลายเทป ทั้งใหม่เก่า ทั้งทายว่าเห็นผี ระลึกชาติ จนถึงสัมภาษณ์คุณหนุ่ม หรือ แก้ตัวกับนักข่าว

เค้ามีเทคนิคของ ที่ใช้คือ “ถามนำ” (leading questions) ก่อน [นอกจากการมีการหาข้อมูลคู่สนทนา] เพื่อทำให้คู่สนทนาหรือผู้ถูกถามเหมือนกับถูกชี้ทางให้ตอบไปตามกรอบที่เขาปูไว้ ตัวอย่างเช่น ถ้าอยากให้คนพูดเรื่อง “แม่บ้าน” ก็อาจถามว่า

• “ที่บ้านมีใครทำกับข้าวให้ใช่ไหมครับ?”

• “ผู้หญิงที่บ้านชอบทำกับข้าวหรือเปล่า?”

จนอีกฝ่ายตอบว่า “ใช่ครับ แม่ทำ” แล้วก็จับประเด็นตรงนั้นมาใช้ต่อ

เออ มัน ฉลาดวุ้ย คนถูกถาม ก็จะแบบ รู้จริงด้วย แม่นวุ้ย

เวลาถูกไล่ถามในคดี ก็ ใช้แบบนี้

พอเอามาใช้ในบริบท คดีหรือการถูกซักถาม เทคนิคนี้จะกลายเป็น การย้อนกลับไปใช้คำถามนำแทนการตอบตรง ๆ

• แทนที่จะตอบแบบเปิดเผย → ใช้ถามนำคืนเพื่อตั้งกรอบ

• เปลี่ยนบทบาทจาก “ผู้ถูกซักถาม” ไปเป็น “ผู้ควบคุมบทสนทนา”

• คนฟังจะเผลอหลุดเข้ามาเล่นในกรอบที่เขาตั้งไว้เอง

เช่น

ถ้าโดนถามว่า

• “คุณรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ไหม?”

แทนที่จะตอบว่า “รู้” หรือ “ไม่รู้” → ใช้ถามนำกลับ เช่น

• “คุณหมายถึงวันที่มีคนนั้นอยู่ด้วยใช่ไหมครับ?”

• “ที่ว่ารู้เห็น หมายถึงเห็นด้วยตาเอง หรือหมายถึงได้ยินจากคนอื่น?”

ตรงนี้ทำให้คู่ถามต้อง “ปรับความหมาย” และอธิบายเพิ่ม → กลายเป็นว่า คนถามต้องตามเกมของเขา

เทคนิคนี้ ฉลาด เพราะปรับเกมส์

• เทคนิค “ถามนำก่อน” คือ ควบคุมทิศทางการสนทนา

• ช่วยลดแรงกดดันเวลาโดนไล่ถามตรง ๆ

• เป็นการ ซื้อเวลา และ เลี่ยงคำตอบที่เสียเปรียบ

• ใช้ได้ทั้งกับการสื่อวิญญาณ (สร้างบรรยากาศให้คู่สนทนา “ตกลงไปในกรอบ”) และการถูกซักถามจริง (กันตัวเองจากการถูกต้อนให้จนมุมเร็วเกินไป)

มันมีวิจัย ว่าคำถามนำแบบนี้ เปลี่ยนความทรงจำไปในทิศทางที่คนถามกลับต้องการได้

leading question ที่เปลี่ยนความทรงจำ (memory distortion) เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ดังที่สุดใน cognitive psychology และ forensic psychology

มันมีกลไกว่า ทำไมคำถามนำเปลี่ยนความทรงจำได้ เรียก Misinformation Effect

เพราะคนเรามี “ช่องโหว่” ของความจำ คือ post-event information (ข้อมูลที่ได้รับหลังเหตุการณ์) สามารถ “เขียนทับ” ความทรงจำจริง

ถ้าได้รับคำถามนำหรือข้อมูลเสริมแบบชี้นำ → สมองจะ integrate เข้ากับ memory เดิม จนกลายเป็น “ความทรงจำใหม่”

อีกกลไกนึงเรียก Source Monitoring Error

คือ คนไม่สามารถแยกได้ชัดเจนว่า “ข้อมูลนี้มาจากการเห็นเอง หรือมาจากคำถาม/คำบอกเล่า” → ทำให้เชื่อมั่นว่าคือความจำของตนเอง

หมอดู หมอเดา นักหลอกล่อ ต้มตุ๋น หรือ เทคนิคที่ใช้ของพวก ทนายความ ก็ ใช้อันนี้แหละครับ

[ขอเติมนะ บางคนบอก แม้น แม่น สิ่งลี้ลับ ไม่เคยเจอ ไม่ขอ comment นะ เรา ดู เท่าที่เราสังเกตเห็น จริง ไม่จริง ไม่รู้ ]

ขอบคุณ เพจเฟซบุ๊ก  สาระสมองกับ อจ.หมอสุรัตน์