ผลพวงจากนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการพัฒนาภาคการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าสหกรณ์ทั้งตลาดในและต่างประเทศ  


         
 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของ “อรรถกร ศิริลัทธยากร” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้ให้ความสำคัญในเรื่องการยกระดับการทำเกษตรแบบดั้งเดิมให้เป็นเกษตรทันสมัย พร้อมกำหนดให้การส่งเสริม ด้านการตลาดสินค้าเกษตรเป็นนโยบายเร่งด่วน ขณะที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ที่มีอธิบดี “วิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์” รับไม้ต่อสนองนโยบายอย่างทันท่วงที


          
มาตรการด้านการผลิตและรวบรวม ผ่านโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) โครงการส่งเสริม และพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นและภูมิปัญญาพื้นถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการสนับสนุนอุปกรณ์การตลาดที่จำเป็น เพื่อให้สหกรณ์เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมและกระจายผลผลิตของสมาชิก เป็นนโยบายสำคัญที่กรมดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง “วิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างเป็นประธานในพิธีมอบอาคารรวบรวมผลผลิตขนาด 2,000 ตัน ของสหกรณ์การเกษตรโพธิ์ไทร จำกัด อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี  


         
 อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีด้านการเงิน ผ่านการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรกู้ยืมไปดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ตลอดจนการส่งเสริมการค้าทั้งตลาด Offline และตลาด Online ทั้ง 3 มาตรการข้างต้น จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ยกระดับคุณภาพผลผลิตตามมาตรฐาน GAP สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร อีกทั้งส่งเสริมการเชื่อมโยงสินค้าเกษตร โดยมีสหกรณ์เป็นกลไกในการขับเคลื่อน ถือเป็นการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจฐานรากให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอย่างมั่นคง 


          
อย่างไรก็ตามโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการขับเคลื่อนผ่านสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มาตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 จนถึงปัจจุบัน (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568) โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  ได้ดำเนินการจัดทำโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร โดยการส่งเสริมสมาชิกและสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรให้มีองค์ความรู้ด้านมาตรฐานสินค้าเกษตร จำนวน 114 แห่ง โดยมีเป้าหมายสมาชิกผู้เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 2,280 ราย  


          
สหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์ 1 ใน 114 แห่งที่เข้าร่วมโครงการฯ ในปีนี้ โดยนางประมวล ปองได้ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯ กล่าวว่าในอดีตที่ผ่านมานั้นการผลิตสินค้าการเกษตร มีจุดอ่อนทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ เมื่อสหกรณ์มีตลาดที่สำคัญในการรับซื้อผลผลิต ได้แก่ ห้างแม็คโคร ห้างบิ๊กซี และโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ แต่ต้องมีข้อกำหนดคุณภาพของสินค้าตามมาตรฐานจีเอพี (GAP) ซึ่งเกษตรกรต้องปฏิบัติตามทำให้เกษตรกรเรียนรู้ที่จะวางแผนการผลิตที่ยกระดับสินค้าเกษตรให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ควบคู่กับมีปริมาณผลผลิตที่สามารถขายได้ตลอดทั้งปี


          
“สหกรณ์สนับสนุนให้สมาชิกเข้าอบรม Good Agricultural Practices : GAP เพื่อให้สามารถขอรับรองมาตรฐานเครื่องหมาย Q ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้าเกษตร เพราะว่าเราจะเอาใบรับรองนี้ไปกับพืชผักเวลาไปส่งให้กับทางโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ห้างแม็คโคร และบิ๊กซี ส่งสัปดาห์ละ 2 วัน (พุธและศุกร์) ส่วนใหญ่ก็จะเป็นต้นหอม ผักชี ผักกาดหอม เคล คะน้า และอีกหลายชนิด โดยสมาชิกจะรวมกลุ่มกันปลูกพืชผักแต่ละชนิด ซึ่งจะสลับหมุนเวียนกันไปตามวงรอบ สมาชิกบางรายก็อาศัยพื้นที่บริเวณข้างบ้านปลูก ผลผลิตได้มาก็ส่งให้กับสหกรณ์ ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิกอยู่ 200 ราย อาชีพหลักทำนารองลงมาปลูกพืชผัก ทำให้สมาชิกมีรายได้ทุกเดือนเฉลี่ย 3,000 - 4,000 บาท ถือว่าอยู่ได้ นางประมวล กล่าวว่า ในส่วนสหกรณ์จะดูแลเรื่องการตลาดให้กับสมาชิกเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำนำไปลงทุนปลูกพืชผักดังกล่าว
          
ขณะว่าที่ ร.ต.หญิง บุษกร จงกลรัตน์ นักวิชาการมาตรฐานสินค้า กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวถึงสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด ซึ่งเข้าร่วมโครงการยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตร ของสมาชิกสหกรณ์ว่าในส่วนสำนักงานสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลลงตรวจแปลงอย่างต่อเนื่อง หลังได้มีการประสานเจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรกาฬสินธุ์ มาทำการอบรมการจัดทำมาตรฐานแปลง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเป็นอย่างดี 


          
“ทางเราช่วยในเรื่องการจัดการอบรม ประสานเจ้าหน้าที่จาก ศวพ.กาฬสินธุ์มาอบรมแล้วก็จัดทำและรวบรวมเอกสารต่าง ๆ ของสมาชิกสหกรณ์ให้กับทาง ศวพ.กาฬสินธุ์ เวลาเจ้าหน้าที่เขาลงพื้นที่ตรวจแปลง เราก็จะร่วมตรวจด้วย ส่วนการเลือกสหกรณ์การเกษตรแก้มลิงหนองเลิงเปือย จำกัด เข้าร่วมโครงการเป็นเป้าหมายมาจากกรม เพราะเป็นสหกรณ์ที่มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์การตลาดโรงคัดแยกพืชผักและสมาชิกมีความเข้มแข็ง ส่วนปัญหาที่ผ่านมาไม่มียกเว้นเรื่องน้ำต้องใช้น้ำบาดาลและน้ำฝนเท่านั้น เนื่องจากระบบชลประทานยังมาไม่ถึง” นักวิชาการฯ คนเดิมกล่าว 


          
สหกรณ์การเกษตรสอยดาว จำกัด อ.สอยดาว จ.จันทบุรี เป็นอีกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตร (GAP) ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 60 ราย มีอาชีพทำสวนลำไยเป็นหลักในการสร้างรายได้ แต่ที่ผ่านมาแปลงปลูกลำไยส่วนใหญ่ยังไม่ได้ยกระดับแปลงปลูกตามมาตรฐานจีเอพี (GAP) เนื่องจากสมาชิกมองว่าการยกระดับแปลงปลูกให้ได้มาตรฐานกับทำแปลงแบบดั้งเดิมราคาจำหน่ายก็ไม่ได้ต่างกัน สมาชิกจึงมุ่งทำแปลงแบบดั้งเดิมเป็นหลัก ทว่าปัจจุบันเริ่มเห็นความแตกต่างมากขึ้นในเรื่องราคาจำหน่าย
          
“สอยดาวเป็นสหกรณ์เล็ก ๆ มีสมาชิกแค่ 60 ราย ยึดอาชีพทำสวนลำไยเป็นหลัก สมาชิกส่วนใหญ่ทำแปลงปลูกแบบดั้งเดิม ไม่มีมาตรฐานจีเอพี (GAP) แต่มีสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการฯ เพียง 20 รายเท่านั้น เป็นเพราะสหกรณ์ไม่มีทุนเพียงพอรับซื้อผลผลิตจากสมาชิก เราจึงเน้นสมาชิกไม่มีตลาดรองรับก่อน ส่วนใหญ่ดีลตรงกับล้งอยู่แล้ว” นางธำรงลักษณ์ นักเสียง ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี เผยสาเหตุคัดเลือกสหกรณ์การเกษตรสอยดาว จำกัด ให้เป็นสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยยอมรับว่าการยกระดับมาตรฐานสวนลำไยจีเอพี (GAP) มีข้อแตกต่างอย่างชัดเจนกับการทำสวนแบบดั้งเดิม หากไม่มีใบรับรองมาตรฐานจีเอพี (GAP) กำกับในการซื้อขายผลผลิตในอนาคตจะลำบากหากต้องส่งออกผลผลิตไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสำหรับเกษตรกรทั่วไป แต่หากเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ ทุกอย่างจะฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายทั้งการฝึกอบรม การประสานเจ้าหน้าที่ ศวพ.ที่ 6 จันทบุรีมาฝึกอบรมให้ความรู้การจัดการแปลง ตลอดจนการจัดทำเอกสารยื่นขอจีเอพี (GAP) ซึ่งทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี ดำเนินการให้ทั้งหมด


          
“เราเข้าไปดูแลจัดอบรม โดยประสานไปยัง ศวพ.6 จันทบุรี ส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมให้ความรู้ให้ที่สหกรณ์ฯ สอยดาวทำให้จบตรงนั้นเลย โดยสมาชิกไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเดินทางไป ศวพ.6 จันทบุรี ระยะทางก็ไกล ประมาณ 70 กิโลเมตร บางรายที่มีใบจีเอพี (GAP) อยู่แล้วแต่หมดอายุก็มาต่อได้ สหกรณ์ฯ เป็นผู้ประสานให้ ต่อไปการต่อใบอนุญาตแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นสมาชิกสหกรณ์ไม่ต้องเสีย แต่ก่อนไม่มีใครสนใจ ทำให้ตอนนี้มีแต่คนอยากเข้ามาเป็นสมาชิกมากขึ้นนี่คือข้อดีของการเป็นสมาชิกสหกรณ์” นางธำรงลักษณ์ กล่าวย้ำ
          
นับเป็นอีกก้าวของขบวนการสหกรณ์ไทยในการยกระดับมาตรฐานสินค้าสหกรณ์ผ่านแปลงปลูกจีเอพี (GAP) ตามนโยบายกรมส่งเสริมสหกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคสู่ความยั่งยืนของเกษตรกรสมาชิก