วันที่ 28 ส.ค.2568 ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายกิตติชัย สัตตราช ทนายความ ได้พา น.ส.ปริฉัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี อยู่หมู่ 9 ต.กุดเรือคำ อ. จ.สกลนคร พร้อมบิดา มารดา เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม และ นายแพทย์สาธารณสุขฯ ขอความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้า ได้ไปทำการคลอดบุตรเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 ที่ รพ.แห่งหนึ่งในจ.สกลนคร หลังจากคลอดบุตรแล้ว เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 3 ทุ่ม มีอาการปวดท้องรุนแรงจึงได้เข้าห้องน้ำ ได้พบเห็นผ้าก๊อซห้ามเลือดโผล่ออกมาจากปากมดลูก มีกลิ่นเหม็นมาก จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสามีให้นำพาไปที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ที่อยู่ใกล้บ้านพักที่สุด เมื่อถึงโรงพยาบาลได้ถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน แพทย์ พยาบาลจึงได้นำผ้าก๊อตห้ามเลือดออกจากปากมดลูก และได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงได้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลประมาณ 10 วัน แพทย์จึงได้ให้ยาฆ่าเชื้อไปทานแล้วให้กลับบ้านได้
ต่อมา วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 ปวดท้องรุนแรงอีก จึงได้จ้างเหมารถเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลเดิม ขอตรวจภายในให้ละเอียด แต่ถูกปฏิเสธ มีเพียงจ่ายยานำกลับไปทานรักษาตัวที่บ้าน จนเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ตนปวดท้องรุนแรงอีก จึงได้จ้างเหมารถเดินทางไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลเดิม แพทย์จึงทำการตรวจปัสสาวะ เอกซเรย์ แล้วให้ยากลับไปทานรักษาตัวที่บ้าน และเมื่อวันที่ 7ส.ค. 2568 รู้สึกปวดท้องรุนแรงอีก จึงได้จ้างเหมารถเดินทางไปโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการตรวจภายในปากมดลูก ตรวจเลือด ตรวจละเอียด แพทย์ให้รักษาตัวถึงวันที่ 14 ส.ค. 2568 แพทย์แจ้งข้าพเจ้าทราบว่า พบการติดเชื้อเรื้อรัง ตรวจยังไงก็เจอ จึงแจ้งว่าไม่ต้องรับยาแล้ว และให้ออกจากโรงพยาบาลกลับบ้านได้
จึงได้เขียนหนังสือร้องทุกข์เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2568 จนได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือเบื้องต้นตามมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 แล้ว ซึ่งตามหนังสือที่ท่านแจ้งช่วยเหลือมาเบื้องต้นจำนวน 90,000 บาท ซึ่งแจ้งว่าหากตนไม่เห็นด้วยกับการพิจารณาขอคณะอนุกรรมการฯ ตนมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัดหรือที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการพิจารณานับตั้งแต่ที่ได้คลอดบุตรและมีอาการปวดท้องรุนแรง จนตรวจพบผ้าก๊อตพันแผล ลืมไว้ในปากมดลุก จนเกิดการอักเสบ ติดเชื้อเรื้อรังจนมาถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 4 เดือนเศษ ที่ต้องทนเจ็บปวดและเข้ารับการรักษาจากโรงพยาบาลหลายครั้ง แต่ก็ยังคงไม่หายขาดและยังมีอาการเจ็บปวดอยู่เช่นเดิม ช่องคลอดมีกลิ่นเหม็น ติดเชื้อเรื้อรังไม่หายขาดสักที จึงได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งต้องมาเจ็บป่วยด้วยเหตุไม่ควรจะเป็น ทั้งยังสูญเสียรายได้ต่อการทำมาหาเลี้ยงชีพ และเสียค่าใช้จ่ายในระหว่างรักษาตัว ต้องแสวงหากู้ยืมเงินเพื่อมารักษาตัวเอง
"ตนมีฐานะยากจน ต้องเช่าเหมารถยนต์ชาวบ้านพาไปโรงพยาบาล และโรงพยาบาลใกล้เคียงหลายครั้งเป็นเวลากว่า 4 เดือนเศษ เป็นเงินกว่า 30,000 บาท ต้องออกจากงานเพราะทำงานไม่ได้ ขนของ แบกหาม ยกของหนักไม่ได้ ติดเชื้อปากมดลูกส่งผลต่อช่องท้องรุกลามไปถึงกระดูกสันหลัง เป็นเหตุให้ข้าพเจ้าขาดรายได้ไปแล้ว ถึง 4 เดือนเศษ เป็นเงินเดือน ๆ ละ 12,000 บาท รวมเป็นเงิน 50,000 บาท และต้องแยกทางกับสามีที่มีบุตรด้วยกัน ตั้งแต่ทราบเรื่องว่าข้าพเจ้าติดเชื้อในปากมดลูก เพราะทนกลิ่นเหม็น จนนั่งหรืออยู่ใกล้ๆ ไม่ได้ และเป็นเหตุให้ไม่สามารถหลับนอนกันได้ อาจจะต้องรักษาตัวไปอีกนานข้าพเจ้าจึงต้องเลี้ยงดูบุตรเพียงลำพังจนถึงปัจจุบัน ไม่สามารถให้นมบุตรได้ เนื่องจากอยู่ในช่วงรักษาอาการป่วยติดเชื้อเรื้อรัง แพทย์ให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือด จึงให้กินนมแม่ไม่ได้ จนต้องซื้อนมผงมาชงให้บุตรกิน จึงมีค่าใช้จ่ายมาแล้ว 4 เดือน เดือนละ 3,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท ซึ่ง จนท.รับเรื่องไว้และจะดำเนินการต่อไป