วันที่ 28 ส.ค.68 ที่ สตม.ภายใต้อำนวยการ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ภานพ วรนัชชากุล ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.
มอบหมายการปฏิบัติให้ชุดสืบสวน บก.สส.สตม. นำโดยพ.ต.ท.ภูริศ คำหมื่น, พ.ต.ต.โกเมน วรรณบวร, พ.ต.ต.กษิดิศ สันติปรีชาวัฒน์, ร.ต.อ.เอกวิน ชีวมงคล, ร.ต.อ.รณกฤต เกษสังข์ และ ร.ต.อ.นนทวัฒน์ สนแจ้ง จับกุมแฮกเกอร์ชาวเมียนมา ดูดข้อมูลบัตรเครดิตทั่วโลก พบกว่าหลายหมื่นใบ ผู้เสียหายทั้งไทย–ต่างชาติ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 14.00 น.เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอพาร์ตเมนต์ย่านถนนจันทน์ แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ และจับกุมนายกอง ขั่น โซ (Mr. Khant Soe ) สัญชาติเมียนมาร์ อายุ 25 ปี
ของกลางที่ตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ iPhone ที่ใช้ในการกระทำผิด ,iPad ที่ใช้รับ–ส่งข้อมูลบัตรเครดิต,ใบเสร็จการซื้อสินค้า ซึ่งพบว่ามีการใช้บัตรเครดิตของผู้เสียหาย จากการตรวจสอบพบ ข้อมูลบัตรเครดิตชาวไทยกว่า 1,000 ใบ และ ข้อมูลบัตรเครดิตชาวต่างชาติอีกหลายหมื่นใบ ครอบคลุมประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ไต้หวัน แคนาดา มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น อินเดีย และอีกหลายประเทศ
พฤติการณ์กล่าวคือ การสืบสวนกรณีผู้เสียหายชาวไทยถูกนำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้สั่งซื้อโทรศัพท์ iPhone 15 ผ่านแอป “แมคโครโปร” โดยไม่ได้เป็นผู้ทำรายการเอง โดยเจ้าหน้าที่ สตม.ได้รับการประสานจาก ธนาคารกสิกรไทย เพื่อให้ตรวจสอบ จนต่อมาสืบสวนพบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ย่านถนนจันทน์ และเข้าตรวจค้นพบผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ตรวจสอบโทรศัพท์และ iPad พบการใช้งาน แอป Telegram ซึ่งมีกลุ่มแชร์ข้อมูลบัตรเครดิตจำนวนมาก โดยผู้ต้องหานำข้อมูลดังกล่าวมาตรวจสอบสถานะ ก่อนใช้ซื้อสินค้าออนไลน์ อาทิ โทรศัพท์มือถือ และส่งต่อไปยังประเทศเมียนมา
จากการสอบสวนนายกอง ขั่น โซ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำลักษณะนี้มานานเกือบ 1 ปี มีการสั่งซื้อสินค้าด้วยข้อมูลบัตรเครดิตของผู้อื่นกว่า 200 รายการ ก่อนนำไปขายต่อที่ประเทศเมียนมา และรับเงินเข้าบัญชีธนาคารเมียนมาของตน จึงแจ้งข้อกล่าวหา“มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 269/6 นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมทั้งได้ประสาน สมาคมธนาคารไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบ–ขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป