เมื่อวันที่ 28 ส.ค.68 นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง "นายกฯลีกวนยู กับ นายกฯแพทองธาร"

ถาม อาจารย์เอานายกฯลีกวนยูกับ นายกฯแพทองธาร มาเปรียบเทียบกันได้อย่างไร

ตอบ  ลีกวนยู มีกิตติศัพท์เป็นคนซื่อตรงต่อตำแหน่งหน้าที่มากๆ    ขนาดสุสานประจำตระกูลจะถูกเวนคืนทำถนนหลวง   บรรดาผู้ใหญ่ลูกหลานในตระกูลพากันมาบีบคั้นให้คุยกับกรมทาง  ให้ยอมโยกถนนอ้อมสุสานนิดเดียวก็พ้นแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอม ยืนกรานว่าถนนสิงคโปร์ในสมัยนายกฯลีกวนยู ต้องเป็นเส้นตรงทุกเส้น     คุณว่าคำตอบอย่างนี้  แสดงถึงอะไร

ถาม แสดงความซื่อสัตย์ต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสิงค์โปร์ว่า ตำแหน่งนี้จะต้องไม่ด่างพร้อยตลอดไป แล้วตัวอย่างนี้มันเกี่ยวอะไรกับ นายกฯแพทองธาร ครับ

ตอบ ถ้าลีกวนยูมาเป็นแพทองธาร  แล้วฮุนเซ็นเข้ามารุกรานสร้างข้อพิพาทชายแดนกับไทย แบบทุกวันนี้     คุณว่าเค้าจะยกหูโทรศัพท์คุยกับลุงฮุนเซ็น ขอให้เห็นใจหลานไหม  เพราะทุกวันนี้เขาเห็นหลานเป็น นายกฯเขมรกันหมดแล้ว

ถาม ไม่มีทางครับ   ลีกวนยูเขาไม่ยอมเอาความเคารพรักส่วนตัว มาพัวพันกับหน้าที่รักษาบ้านเมืองของนายกรัฐมนตรีแน่นอน

ตอบ แต่ถ้าเขาแข็งขืน ตอบโต้กับเขมร  จนธุรกิจและทรัพย์สินหลายพันล้านของท่านพ่อ ถูกฮุนเซ็นยึดไปหมดล่ะ  คุณว่าลีกวนยูไม่กลัวหรือ

ถาม ไม่กลัวครับ “นายกรัฐมนตรี” เป็นตำแหน่งของประเทศมีหน้าที่ต้องทำเพื่อชาติและประชาชน ตำแหน่งนี้มีพ่อมีแม่ไม่ได้  ว่าแต่ว่าจะถึงขนาดพูดคุยชี้แจงกับลุงฮุนเซ็นบ้างไม่ได้เลยหรือครับ

ตอบ ถ้าโทรบอกว่าอย่าโกรธหลานนะคร้า   หลานต้องทำตามหน้าที่  อย่างนี้พูดได้อธิบายได้ แต่ไปชี้ว่ากองทัพเป็นฝ่ายตรงข้ามเป็นคนอยากเท่ห์อย่างนี้ไม่ถูก  มันเสียหายต่อความมั่นคง ทำให้ฮุนเซ็นเห็นช่องว่าทหารไทยกำลังถูกรัฐบาลโดดเดี่ยว จนตัดสินใจลงมือโจมตีได้เลย

ถาม แล้วไปรับปากฮุนเซ็นว่า  จะคุยกับกลาโหมให้เปิดด่านได้ไหม 

ตอบ ไปเจรจาอะไรไม่ได้ทั้งนั้นครับ   สภาความมั่นคงมีมติมอบอำนาจให้กองทัพไปควบคุมด่านทั้งประเทศแล้ว   หวังว่าจะมีผลให้เขมรชะงักงันการรุกรานลงได้บ้าง    แล้วคุณไปรับปากยอมถอยให้เขา  เพียงเพื่อให้คุณลุงที่สุดแสนจะบูชาพอใจได้อย่างไร งานนี้ทรยศต่อหน้าที่ต่อความไว้วางใจของประชาชนชัดเจน

ถาม นี่ถ้าเราสมมุติกันต่อไป ให้ลีกวนยูมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ   ท่านก็ต้องตัดสินถอดถอนแพทองธาร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแน่นอน

ตอบ แน่นอนครับ ตำแหน่งนี้จะทำให้ถนนเลี้ยวไปเลี้ยวมาไม่ได้ฉันใด นโยบายจัดการข้อพิพาท ไทย - กัมพูชา ก็เช่นกัน จะบิดผันตามความผูกพันหรือประโยชน์ส่วนตัวของชินวัตรไม่ได้เด็ดขาด
    
นี่คือหลักกฎหมายที่สำคัญและเห็นชัดเจนที่สุด ในรัฐธรรมนูญครับ