เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัครา พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการและจัดแสดงผลงานวิชาการกรมพัฒนาที่ดิน ประจำปี 2568 ณ โรงแรม ดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จังหวัดพิษณุโลก พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยในยุคใหม่ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี “ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมความแข็งแกร่งให้เกษตรกรไทย” อย่างเป็นรูปธรรมโดยมี นายทรงพล วิชัยขัทคะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ให้การต้อนรับ และ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดประชุม ซึ่งมุ่งหวังให้เป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ผลงานวิจัย และนวัตกรรมจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานแบบบูรณาการ
ในโอกาสนี้ กรมชลประทาน โดยนายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 พร้อมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ได้เข้าร่วมรับฟังนโยบายและเยี่ยมชมการจัดแสดงผลงานวิชาการ เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และประสบการณ์ พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหน่วยงานต่าง ๆ ซึ่งจะนำไปสู่การเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพในระดับพื้นที่
สำนักงานชลประทานที่ 3 ยังได้รายงานความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม–น่าน ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนปลายปี โดยมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุก รองรับฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุ ตามแนวทางที่ร่วมกำหนดกับคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย
ในพื้นที่ลุ่มน้ำยม ได้ดำเนินการพร่องน้ำจากลำน้ำสายหลักและสายสาขา พร้อมเปิดประตูระบายน้ำที่สำคัญ และเตรียมพื้นที่บางระกำโมเดลรองรับน้ำหลากหากระดับน้ำเข้าสู่ภาวะวิกฤต ทั้งยังบริหารการผันน้ำบางส่วนสู่ลุ่มน้ำน่านผ่านคลองระบายน้ำต่าง ๆ เพื่อกระจายน้ำอย่างสมดุลและลดผลกระทบในพื้นที่ปลายน้ำ
ด้านลุ่มน้ำน่าน มีการควบคุมการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และบริหารจัดการร่วมกับเขื่อนขนาดกลางในพื้นที่ โดยเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เช่น เขตเมืองพิจิตร พร้อมเตรียมความพร้อมเครื่องจักรและเครื่องสูบน้ำในจุดลุ่มต่ำ เพื่อเร่งพร่องน้ำจากพื้นที่เกษตรกรรมที่ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 3 ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และพร้อมปรับแผนปฏิบัติให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง เพื่อป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำหลากในพื้นที่ลุ่มน้ำยม–น่าน บริหารจัดการน้ำอย่างสมดุลระหว่างต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ให้สอดรับกับการดำเนินงานของเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ