เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 26 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายก ฯ และประธานกรรมการข้าราชการตำรวจและกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) หลังทำหนังสือร้องเรียนกรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายประจำปี 2568 ว่า วันนี้ตนมารายงานเรื่องวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ไม่มีการพูดเรื่องนี้ แต่นายภูมิธรรมรับเรื่องไว้แล้ว และบอกอย่างเดียวว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะทำให้เสียกำลังใจหรือไม่ ถ้าหากไม่ได้การทบทวนเรื่องนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนและข้าราชการได้รับสิทธิ์ทุกคน ซึ่งระบบการแต่งตั้งนั้นมันเป็นกฎหมาย เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีสิทธิ์ และนายภูมิธรรมเป็นประธาน ก.ตร. ต้องให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว เชื่อว่านายภูมิธรรมเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผล สิ่งที่ตนร้องไปอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมตำรวจที่ยังใช้ระบบอุปถัมภ์อยู่ ตนอยากให้ใช้ความรู้ความสามารถ ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ว่าคนที่ตั้งใจทำงานมีความรู้ความสามารถจะได้รับการตอบแทน จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ แต่ไม่ใช่ให้เอาความรู้ความสามารถไปใช้ประโยชน์ส่วนตัวหรือเฉพาะกลุ่ม
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ถ้าความยุติธรรมไม่มี มันจะเกิดการทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม อยู่ไปเพื่อรอหรือวิ่งเต้น ตนอยากให้ทุกคนแข่งกันทำงานเพื่อประชาชน ใครทำไม่ดีก็ตั้งคณะกรรมการ ถ้าทำดีทำขยันก็ได้รางวัลไป มันต้องมีเหยื่อล่อ ทุกคนที่ทำงานไม่มีหรอกจะพูดว่าไม่หวังที่จะเจริญก้าวหน้าทุกคนหวัง
“แต่ผมได้รับร้องเรียนจากเพื่อนพี่น้อง ระบบความเป็นธรรมของเรานั้นแก้กฎหมายก็ยังเหมือนเดิม ฉะนั้นอยากให้ทำตามกฎหมาย รูปแบบของการประเมินที่เคยทำมา และมันตรวจสอบได้โดยคะแนนว่าคนนี้น้อยคนนั้นมาก ตรวจสอบเป็นรายบุคคลแล้วจะรู้ว่าใครมีผลงาน ฉะนั้นหากระบบคุณธรรมไม่เกิด ประชาชนก็ไม่ได้รับความยุติธรรม ผมเป็นหนังหน้าไฟมาวันนี้ ผมทำงานและเห็นการเปลี่ยนแปลงมาหลายองค์กร แต่หันหน้ามาดูองค์กรของเราเองมันไม่เปลี่ยน ผมก็อยากให้มันเปลี่ยน ผมไม่ได้ไม่เป็นไร จำคำพูดไว้ ถ้าเขาพิจารณาแล้วผมไม่ได้ และมีคนมีความสามารถเหนือผมได้ไป ยินดีด้วย พูดไว้ตรงนี้ไม่งอแง นี่เป็นหนังสือร้องเรียนฉบับแรกในชีวิต“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ตนถูกรังแกตั้งแต่ปีที่แล้ว ที่สกัดตนและเอามาอยู่ที่นครบาล ซึ่งบอร์ด ก.ตร. ชุดใหญ่ช่วยตนไว้ เขาบอกว่าตนทำงานไม่มีความผิดจะย้ายได้อย่างไร ซึ่งสาเหตุที่ตนถูกย้ายมาจากคดีใหญ่คดีหนึ่ง ซึ่งเขาห้ามไม่ให้ตนพูดตอนที่ตนจะถูกย้ายนั้น ตนรู้เลยว่ามีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ซึ่งตนบอกถึงเรื่องราวไปกับผู้ใหญ่ทั้งหมดแล้วแต่ยังถูกเสนอย้าย ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันหมด