เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบฯ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมรับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา และมอบนโยบายด้านความมั่นคงให้แก่ จ.ประจวบฯ โดยมี นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ฝ่ายปกครอง หน่วยงานด้านความมั่นคง ร่วมประชุม และรายงานผลการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ให้รองปลัดกระทรวงมหาดไทยรับทราบ ได้แก่ ผลการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามมาตรการเร่งด่วน No Drugs No Dealers ของรัฐบาล การจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพล และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา
ทั้งนี้ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับเรื่องการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการปฏิบัติให้เห็นผลสัมฤทธิ์ที่ชัดเจนเพื่อให้การทำงานบรรลุเป้าหมายตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมภายใน 3 เดือน พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ รี-เอกซเรย์ ค้นหาผู้ติดผู้เสพยาเสพติดจริง ๆ เพื่อให้ทราบจำนวนผู้เสพ ขยายผลถึงผู้ค้า และนำตัวผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา ฟื้นฟู พัฒนาอาชีพ ส่วนพื้นที่ชายแดนของ จ.ประจวบฯ ซึ่งทุกอำเภอมีพื้นที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยมีจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ เป็นช่องทางหลักในการเดินทางข้ามแดน ขอให้เตรียมพร้อมแผนบริหารสถานการณ์ชายแดนที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้กรณีหากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีชาวเมียนมาอพยพหนีภัยเข้ามาในฝั่งไทย ต้องมีระบบบริหารจัดการที่ดีโดยคำนึงถึงความถูกต้องตามหลักมนุษยธรรมและความมั่นคงของประเทศ
พร้อมกันนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกระบวนการตรวจพิสูจน์สัญชาติคนไทยพลัดถิ่นใน จ.ประจวบฯ ที่ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการอีกกว่า 1,000 คน เพื่อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ประสานกระทรวงมหาดไทยให้เร่งรัดดำเนินการในเรื่องนี้เพื่อคืนสัญชาติให้กับกลุ่มคนไทยพลัดถิ่นที่ขณะนี้พบว่าทั่วประเทศยังเหลือผู้ที่อยู่ในกระบวนการตรวจพิสูจน์สัญชาติอีกจำนวนกว่า 4,000 คน
จากนั้นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่อาคารด่านพรมแดนสิงขร จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ ซึ่งปัจจุบันมีคำสั่งผ่อนปรนให้เฉพาะการขนถ่ายสินค้าข้ามแดนเท่านั้น ในวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 18.30 น. โดยรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สอบถามถึงขั้นตอนการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขร เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดเฝ้าระวังตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมายลักลอบเข้ามาในไทย พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะสนับสนุนในสิ่งที่ยังขาดเหลือให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน